วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จินตนาการจากซอกตึก

๐ กลิ่นสดสดจากสุมทุมและพุ่มไม้
น้ำใสใสไหลจากธารผ่านโขดหิน
ภาพซึ้งซึ้งเมื่อฝูงนกโบกปีกบิน
เสียงคุ้นคุ้นนกเขาคูอยู่ประจำ
๐ เป็นสีสันสดใสชื่นใจนัก
เป็นความรักความผูกพันวันยันค่ำ
เป็นความหมายความหลังฝังใจจำ
เป็นรูปธรรมเป็นนามธรรมอยู่ในตัว
๐ จากดอกไม้ดอกหนึ่งถึงหลายดอก
จากสายหมอดถึงเมฆหม่นมนต์สลัว
จากเช้า-สาย-บ่าย-เย็น เน้นใจรัว
จากตนตัวซึมซ่านผ่านถึงใจ
๐ อยู่ที่ใดจักสุขใจไปกว่านี้
แม้ไม่มีม่านแลเป็นแพรไหม
แม้มิใช่วิมานอันวิไล
ก็ยังมีม่านใบไม้มาทดแทน
๐ มองออกไปหัวใจลิ่วไปแล้ว
ไร้น่านแนวบินไกลได้สุดแสน
ดั่งปีกทิพย์กายเทียมเยี่ยมทุกแดน
ลืมคับแค้น ลืมสังขาร กาลเวลา
๐ นั่นเป็นเพียงจินตนาการหลังม่านตึก
เป็นเพียงนึกเพียงฝันอันอ่อนล้า
จริงจริงแล้วเราถูกขังดังปูปลา
ต้องหันหน้าเข้าซอกตึกนึกเอาเอง

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๕ กรกฎา ๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น