วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การเดินทางสู่คุณค่าของชีวิต

๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
สิ่งที่จักไขว่คว้าเบื้องหน้านั้น
มันยิ่งใหญ่น่าค้นหาค่าอนันต์
ยิ่งผาหินดินดานปฐพี
๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
สิ่งที่จักไขว่คว้าที่ว่านี้
ไม่อยู่ใต้อุ้งเท้าเราด้วยซี
เป็นสิ่งที่อยู่ไกลสุดสายตา
๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
ไม่ง่ายนักหากคิดติดตามหา
แต่ไม่ยากจนเกินเดินไปคว้า
อยู่ที่ว่าเราจะไปหรือไม่ไป
๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
อยากถามทักว่าเห็นทางกันบ้างไหม
รวบรวมไว้หรือยังกำลังใจ
แล้วเรื่องไฟส่องทางสร้างหรือยัง
๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
จงรู้จักเติมฝันใฝ่ใส่ความหวัง
จงเติมไฟในดวงจิตผลิตพลัง
แล้วเพียรสร้างทางเดินโดยตัวเรา
๐ ....วัยรุ่นวัยเรียนที่รัก
อย่าหยุดพักการเดินทางอย่างโง่เขลา
เวลาน้อยหนทางไกลให้เร่งเข้า
ไปคว้าเอา "คุณค่า" มาครอบครอง ๐ ๐ ฯฯ

ศักดิ์เรือง วลี / ๓๑ สิงหา ๕๒

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ภูเขาไฟดอกไม้

ขอเป็นภูเขาไฟ
ที่พ่นดอกไม้แทนหินละลาย
ไม่ร้อนไม่เย็น
เป็นดอกไม้แห่งความคิดคำนึง
ความคิดบวก ที่มองโลกและผู้คนในแง่ดี
ปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์
...จักขอพ่นดอกไม้ไปเรื่อยๆ
ให้ดอกไม้หลอมละลาย
ไหลไปทุกทิศทาง
แม้ใครจะไม่รับรู้
แม้ใครจะไม่แยแสปรายตามอง
ก็จักขอทำหน้าที่
....ภูเขาไฟดอกไม้
ต่อไปและต่อไป

ศักดิ์เรือง วลี / ๓๐ สิงหา ๕๒

เพลงสากล

๐ มนต์บรรเลงเพลงไพเราะเกาะดวงจิต
แนบสนิทดวงใจให้ลุ่มหลง
แฝงอารมณ์อยู่นิรันดร์อย่างมั่นคง
สิ้นชีพลงจึ่งสิ้นพ้นจากมนตรา
๐ อันดนตรีนั้นไม่ว่าภาษาใด
ย่อมซึ้งใจได้ทั่วทุกภาษา
ท่วงทำนวงพริ้วพร้อมย้อมวิญญาณ์
เป็นภาษาเดียวกันนั่นแท้เทียว
(บทกวีนี้เคยได้รับรางวัลจากรายการของคุณไพบูลย์ ศุภวารี )
ศักดิ์เรือง วลี /๓๐ สิงหา ๕๒

ที่มาที่ไป

๐ เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมานาน
ก่อนจะบานก็รู้ว่ามาจากไหน
ครั้นร่วงโรยยังล่วงรู้อยู่อย่างไร
รู้ที่มาที่ไปเข้าใจกัน ๐ ๐ ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี / ๒๙ สิงหา ๕๒

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มอบ

๐ มอบรับมอบรู้ให้ คงเห็น
มอบห่วงมอบหวงเป็น เช่นนี้
มอบรักมอบใจเอน โอนอ่อน
มอบหมดโปรดจงชี้ สิ่งได้คือใด

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๙ สิงหา ๕๒

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แด่...เด็กน้อย (๖)

เพื่อนที่รัก
.......เป็นไงบ้าง "ป่าช้าแห่งนิรันดร์"
ฉันจำได้ว่าคุณเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องนี้
......บัดนี้เด็กๆของเราจำนวนหนึ่ง
ได้ตายไปแล้ว
ตายไปด้วยความหิวดโหย
................ความหนาวเหน็บ
................โรคร้ายทั้งทางกาย จิตใจ อารมณ์ และวิญญาณ
ตายไปด้วยความยากเข็ญ
ตายไปด้วยความป่าเถื่อน
ตายไปด้วยการวิวาท ความคะนองและความรุนแรง
ตายไปด้วยความขาดคุณธรรมของเพื่อนมนุษย์
.................ฉันขอฝังศพเหล่านั้น
ที่ป่าช้าแห่งนิรันดร์
ปิดไว้ให้แข็งแรงและมิดชิด
..................เพื่อป้องกันมิให้
เชื้อร้ายที่เป็นเหตุแห่งการป่วยการตายเหล่านั้น
จะได้ไม่มีโอกาสโผล่ผุดขึ้นมาทำอันตราย
..ต่อเด็กๆของเราอีกต่อไป

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๘ สิงหา ๕๒

แด่...เด็กน้อย (๕)

เพื่อนที่รัก
..........ฉันจำได้ว่า
คุณเคยเขียนบทเรียนไว้มากมาย
.....บทที่หนึ่ง เรื่องภาษา
.....บทที่สอง เรื่องประวัติศาสตร์
.....บทที่สาม เรื่องคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
.....บทที่สี่ เรื่องภูมิศาสตร์
.....บทที่ห้า เรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ ฟ้า ฝน
.....บทที่หก เรื่องไสยศาสตร์
.....บทที่เจ็ด เรื่องสังคม
.....บทที่แปด เรื่องคน
.....บทที่เก้า เรื่องศิลปะและวัฒนธรรม
.....บทที่สิบ เรื่องศีลธรรม
.....บทที่สิบเอ็ด เรื่องจิตสำนึกของความเป็นคน
.....บทที่สิบสอง เรื่องอื่นๆ (อีกมากมาย)

เพื่อนที่รัก
ณ วันนี้ เด็กๆของเราเขลา หลงทาง และเถื่อนเหลือเกิน
ฉันขอบทเรียนที่ เก้า สิบ และสิบเอ็ด ก่อนได้ไหม
โดยด่วนเลย เพื่อนรัก
ฉันจะนำไปให้เด็กๆได้เรียนรู้ก่อนบทอื่นๆ

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๘ สิงหา ๕๒

แด่....เด็กน้อย(๔)

เพื่อนที่รัก
..................
คุณมีกระท่อมที่ชื่อ "อบอุ่นใจ" อยู่ใช่ไหม
แม้มันจะไม่ใหญ่โต
แต่ฉันเห็นว่ามันทำให้มั่นใจได้ว่ามั่นคง
มีร่มเงาแห่งความเข้าใจ
มีความปลอดภัยในความรู้สึกนึกคิด
มีอาณาเขตอันกว้างขวางเพียงพอสำหรับอิสระเสรี
........ฉันขอให้เด็กๆของเราเข้าพักอาศัยได้ไหม
เด็กๆว้าเหว่ ..เศร้า เหงา อึดอัดใจ และสับสนกันเหลือเกิน

ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ สิงหา ๕๒

แด่...เด็กน้อย (๓)

เพื่อนที่รัก
.................
ในสวนสมุนไพรของคุณ
.....ยังมีว่านที่ชื่อ "สงสาร" และว่าน "เห็นใจ"
รวมถึงไม้สำคัญที่ชื่อ "เอื้ออาทร"
..... ที่คุณเคยบอกว่าได้เพาะเลี้ยงไว้นานนักหนาแล้ว
ถึงวันนี้มันยังมีอยู่หรือไม่
......ถ้ายังมีอยู่
ขอได้โปรดแบ่งปันให้ฉันบ้างเถิด
......เด็กๆของเรากำลังป่วยไข้ทางอารมณ์
และกำลังเจ็บปวดในจิตวิญญาณ

ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ สิงหา ๕๒

แด่....เด็กน้อย (๒)

เพื่อนที่รัก
............
คุณเคยบอกว่า
....คุณมีนาบุญอยู่แปลงหนึ่ง
....คุณได้หว่านพืชพรรณ สายพันธุ์ "เมตตา" ไว้นานแล้ว
ไม่ทราบว่าได้ให้ผลิตผลบ้างแล้วหรือยัง
.....ถ้าคุณได้เก็บผลผลิตไว้แล้ว
แบ่งปันให้ฉันบ้างเถอะ
....เด็กๆของเราในชนบท
หิวโหยกันเหลือเกิน

ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ สิงหา ๕๒

แด่...เด็กน้อย (๑)

เพื่อนที่รัก
...........
คุณเคยมีผ้า
......ที่ถักทอด้วยสายใจ
......แล้วชุบย้อมด้วยน้ำใจ
......เก็บพับไว้ในจิตสำนึก
ผ้านั้นยังมีอยู่ใช่ไหม
ขอให้ฉันเถิด
เด็กๆของเราในชนบท
เหน็บหนาวกันเหลือเกิน

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๘ สิงหา ๕๒

เพื่อนเดินทาง

๐ รื่นรื่นรินเริงเริง
หลงระเริงจนลืมเลือน
โลกกร่อนร้อนรนเหมือน
จักคลอนเคลื่อนจากความจริง
๐ โลกเผินของผู้คน
ดูสุขล้นทั้งชายหญิง
แต่โลกที่แท้จริง
คนละสิ่งคล้ายกับลวง
๐ ที่แท้มีทั้งสุข
ทั้งมีทุกข์ที่ใหญ่หลวง
ปนไปเป็นช่วงช่วง
เห็นเป็นห้วงแห่งกงกรรม
๐ ยามสุขอย่าเหลิงสุข
ยามทุกข์อย่าถลำ
ใช่ทุกข์จักทอดกรรม
จนเตลิดตลอดไป
๐ ทุกข์มาทุกข์ย่อมหมด
โศกสลดสลัดไหว
สุขมาสุขย่อมไป
มีสิ่งใดจักจีรัง
๐ เกิดตนเป็นคนมา
ก้าวแกร่งกล้าเกิดความหวัง
ประคองตนอย่างจริงจัง
เดินตามหวังกันต่อไป
๐ เดินทางอย่าทิ้งเพื่อน
ที่คอยเตือนให้ปลอดภัย
เพื่อแท้ร่วมทางไป
เพื่อนนั้นไซร้ก็คือ "ธรรม" ๐ ๐ ฯฯ

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๘ สิงหา ๕๒

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฟ้าประดิษฐ์

๐ เชิญฟ้า มาประดับ กับดิน
สวยศิลป์ สีใส ใบเขียว
ดอกฟ้า แซมสม กลมเกลียว
เนื้อเดียว ประดิษฐ์ ฟ้าดิน ๐ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี / ๒๕ สิงหา ๕๒

สายสร้อย

๐ สายสร้อย ร้อยสาย หายโศก
แซมโลก แซมป่า แซมบ้าน
ผลิยอด ผลิช่อ ริมชาน
เบิกบาน ย่านย้อย สร้อยอินทนิล ๐ ฯฯ

ศักดิ์เรือง วลี /๒๕ สิงหา ๕๒


วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แมลงปอ


๐ แมลงปอ ไปไหน มาหนอ
บ้าบอ เบื่อไม้ ใช่ไหม
ปีนป่าย ป่าปูน เปลียนไป
ดอกไม้ รอท่า อย่าลืม

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๒ สิงหา ๕๒/

สร้อยอินทนิล

๐ สร้อยสายสอดสายสร้อย สายสลับ
อินทนิลอินทรนัยน์จับ เนตรจ้อง
สร้อยสีสร้อยเสียงสดับ โดยภู่
อินทนิลนึกเนตรน้อง นาฏหน้านำเสนอ
ศักดิ์เรือง วลี / ๒๒ สิงหา ๕๒

ความเชื่อ

......แม้ไม่เชื่อ
.....เรื่องนรก และสวรรค์
แต่มันก็มีจริง
......อย่างน้อยก็อยู่ที่ใจ
......แม้ไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่
แต่มันก็เป็นจริง เกิดขึ้นได้จริง
......อย่างน้อยในช่วงที่ยังมีชีวิต
มันเกิดขึ้นได้หลายครั้ง
.....ทั้งๆที่ยังมีลมหายใจ

ศักดิ์เรือง วลี / ๒๒ สิงหา ๕๒

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ช้าหน่อย "นวัตกรรม"

๐ อันความคิดของมนุษย์ไม่หยุดยั้ง
เป็นพลังเปลี่ยนแปลงและแข่งขัน
สร้างแรงเลื่อนเคลื่อนขับกับผลักดัน
ให้แปรผันพลิกวิถีชีวีคน
๐ ยิ่งเก่งมากยิ่งคิดไวไม่หยุดนิ่ง
โลกก็ยิ่งถูกขับจนสับสน
สังคมพล่านผันผกจนวกวน
ต้องดิ้นรนขวนขวายให้ทันการณ์
"นวัตกรรม" เกิดใหม่เปลี่ยนไวมาก
ล้วนเกิดจากความคิดฝันอันฟุ้งซ่าน
คนทำเก่งเพียรสร้างฝันอันตระการ
ให้เปลี่ยนผ่านเป็นของจริงสิ่งใหม่มา
๐ แม้ของเก่ายังใช้ดีมีครบถ้วน
ทุกกระบวนหน้าที่ยังมีค่า
ใช้ต่อไปยังข้นเข้มเต็มอัตรา
ชั่วชีวาหนึ่งคนยังผลดี
๐ แต่พอเห็นของรุ่นใหม่ใจคอสั่น
เข้าแย่งกันครอบครองของใหม่นี้
ฝ่ายการผลิตก็เร่งทำกำไรดี
ไม่คำนึงถึงผลมีที่ตามมา
๐ การสร้างของรุ่นใหม่ใช้วัตถุ
เป็นวัสดุสั่งสมมานานช้า
เป็นสมบัติส่วนกลางของโลกา
ไม่ควรมาทำถดถอยย่อยยับลง
๐ ได้ของใหม่ทิ้งของเก่าเป็นขยะ
แล้วปล่อยปละกากเดนเป็นพิษสง
ใช้รุ่นนี้ไม่กี่วันพลันปลดลง
เปลี่ยนรุ่นใหม่ดังเวียนวงอันวกวน
๐ หากยอมให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้
อีกไม่นานกี่ปีจะมีผล
สินแร่ธาตุในดินสิ้นบัดดล
ถูกขุดค้นเอามาใช้จนไม่พอ
๐ ผิวของโลกจะกลวงทะลวงสิ้น
เหมือนทรัพย์สินส่วนรวมไม่เหลือหลอ
ควรได้ใช้ถึงลูกหลานที่ยังรอ
รุ่นแม่ พ่อ กลับล้างผลาญบานตะไท
๐ ฉะนั้นหนา ...ช้าหน่อย....นวัตกรรม
จะประดิษฐ์คิดย้ำทำสิ่งใหม่
จงหยุดนับยับยั้งและชั่งใจ
ว่าจำเป็นหรือไม่ไตร่ตรองดู
๐ การคิดค้นวิทยาไม่ว่าหรอก
แต่ขอบอกการประดิษฐ์ผลิตสิ่งหรู
ควรจะถ่วงเวลามาอุ้มชู
ที่มีอยู่ได้ใช้ไปให้คุ้มทุน
๐ ทำเป็นข้อตกลงกันทั้งโลก
อุปโลกน์องค์กรตั้งเป็นศูนย์
เป็นธนาคารความคิดผลิตข้อมูล
คอยเพิ่มพูนต่อยอดตลอดไป
๐ ถึงจังหวะที่จะเปลี่ยนเทคโนโลยี
ค่อยแทนที่สิ่งเก่าเอาไปใช้
สิ่งประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์อันวิไล
แล้วใช้ไปให้คุ้มค่าไม่ว่ากัน
๐ ขืนแก่งแย่งแข่งไปไม่หยุดยั้ง
โลกจะพังพบหายนะโดยเร็วนั่น
มีขยะทับถมระทมพลัน
คงสักวันโลกสลายมลายลง
๐ ผู้ที่ใช้นวัตกรรมควรคำนึง
ให้นึกถึงความพอดีมิมัวหลง
บริโภคเกินจำเป็นเห็นแล้วงง
หัวสูงส่งบ้าเห่อแห่กันไป
๐ ให้ช้าช้า ชะลอก่อนวิงวอนเถิด
เดี๋ยวจะเกิดวิกฤติพ่นพิษใส่
โลกทั้งโลกจะวิบัติถึงบรรลัย
แล้วมีภัยไปทั่วทั้งโลกเอย
ศักดิ์เรือง วลี / ๒๐ สิงหา ๕๒

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ตัวแทน

๐ ฉันขอปลูกดอกไม้ไว้ที่นี่
เป็นดอกไม้แห่งความดีสีสดใส
แม้ห่างเหินเดินดลอยู่หนใด
จักขอให้ดอกบัวเป็นตัวแทน ๐ ฯฯ

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๘ สิงหา ๕๒


วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทุภาษิต

๐ การนินทากาเลเหมือนเทเหล้า
คนกินเมาแต่ขวดเหล้าเขากลับเฉย
ควรทำตัวเหมือนขวดเหล้าที่เฉยเมย
กินไปเลยเราเป็นเราเขาเมาเอง
ศักดิ์เรือง วลี / ๑๘ สิงหา ๕๒

ดิน น้ำ ลม ไฟ

๐ ดินแดนประกอบด้วย ดินดอน
น้ำเนื่องนองแนวนอน แน่นหล้า ลมโอบอุ่นไอรอน รานรุ่ม
ไฟฟู่จากฟากฟ้า ช่วยฟื้นไฟใน
ไฟฟอนรุมรุ่มร้อน รนลน
ลม เคร่งเครียดระคน บิ่นบ้า
น้ำดุเดือดบัดดล ดันคลั่ง
ดินสั่นสะเทือนท้า ทิ่มน้ำลมไฟ
ศักดิ์เรือง วลี / ๑๘ สิงหา ๕๒

พืชพรรณอันพิสุทธิ์ ๒

๐ สุขใดดื่มด่ำได้ ดังเห็น
เอมอิ่มปานที่เป็น รสแท้
รสทิพย์ไล่ลำเค็ญ ขมขื่น
กลิ่นกรุ่นเนานานแม้ ร่างล้าแรงรา
ศักดิ์เรือง วลี / ๑๘ สิงหา ๕๒


วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พืชพรรณอันพิสุทธิ์

๐ พืชพรรณ อันแพรวพราย
พรรณราย โดยเสรี
เชิดชู ชุบชีวี
มีชีวิต มีชีวา
๐ เติมจิต เติมหัวใจ
เติมฝันใฝ่ เต็มอัตรา
เติมหวัง เติมคุณค่า
เติมอุรา จนตื้นตัน

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๗ สิงหา ๕๒


วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ยานทิพย์

๐ ยุคยานทิพย์ นั่งยาน ผ่านม่านเมฆ
ขึ้นเป่าเสกร่ายมนต์พ่นคาถา
พ่นลงดินพ่นลงน้ำพ่นขึ้นฟ้า
ชั่วพริบตาพ่นไปได้ดังใจ
๐ การสื่อสารแทรกผ่านปานฟ้าแลบ
ใครเจ็บแสบโดนมึนงงอย่าสงสัย
ไปได้เร็วรับได้เร็วรู้ได้ไว
สงสารใจมันทำใจไม่ได้ทัน
๐ สิ่งสื่อไปมีด้านดีมีด้านลบ
ผลกระทบรุนแรงทั้งแข่งขัน
สิ่งที่ผิดต้องแก้ไขพัลวัน
ควรรู้ทันพึงระวังทุกเวลา
๐ ไม่ชอบใจพ่นคำด่าเป็นว่าเล่น
เช้ายันเย็นเห็นแต่คนที่ก่นด่า
เห็นแต่คำไม่เห็นค่าเห็นหน้าตา
จนปัญญาจะตอบโต้ตามใจตน
๐ ส่วนคำชมก็ได้ชื่นกันอยู่บ้าง
ที่ชมอย่างมีแผนโดยหวังผล
จะเชื่อถือได้หรือไม่ให้กังวล
ต้องอดทนอย่างยิ่งยวดยุคยานทิพย์

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๖ สิงหา ๕๒


วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขอควายคืนทุ่ง

๐ ควายขาดทุ่งเขามุ่งขายเข้าโรงฆ่า
พวกชาวนามาหลงทางลืมหางไถ
ต้องเดินตามควายเหล็กลืมควายไทย
จนจากไกลลับนาหายหน้านาน
๐ ดินดำดีโดยได้ปุ๋ยเจ้าทุยทิ้ง
เคยพึ่งพิงเพื่อนทุกข์กลับถูกผลาญ
ทำปู่ย่าตายายตะลึงลาน
เพราะลูกหลานทิ้งทุ่งทิ้งทุยไทย
๐ แม้อารยธรรมต่างประเทศอาเพศพิษ
ขอให้คิดคล้องควายคืนมาใหม่
กลับมาทุ่งมุ่งมานาหันมาไร่
ช่วยชาติไทยฟื้นฟูอยู่ร่มเย็น

ศักดิ์เรือง วลี /๑๓ สิงหา ๕๒

(ภาพควายจากอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เอื้อเฟื้อภาพ โดย นายสัตวแพทย์ จำรัส เข่งวา...ขอบคุณครับ)


วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รักษาป่าพระราชินี

๐ ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนชอบต้นไม้
แสนสุขใจยามได้ยลต้นไม้เขียว
แม้ได้เห็นได้ใกล้ชิดเพียงนิดเดียว
ยังยาเยียวรักษาถึงอารมณ์
๐ ทุกทุกคราที่สดับพระราชเสาวนีย์
แห่งสมเด็จพระราชินีฯ ที่สร้างสม
ยกมือขึ้นเหนือเกล้าเฝ้าประณม
ด้วยนิยมพระราชดำริที่ทรงคุณ
๐ "โครงการป่ารักน้ำ" สำคัญยิ่ง
ฟื้นสองสิ่งให้สอดรับสนับสนุน
โดยมีป่ารักษ์ต้นน้ำเพื่อค้ำจุน
ความสมบูรณ์เกิดสมดุลย์ในคุณค่า
๐ ด้วยต้นไม้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง
พระเป็นมิ่งมุ่งปกป้องคุ้มครองป่า
วันเฉลิมขอถวายสัตยา
จะรักษาป่าไม้ให้พระองค์
๐ ขอเพียรเฝ้าเอาใจใส่ในต้นไม้
เพื่อเทิดไท้พระราชินีที่สูงส่ง
ขอป้องป่าปลูกไม้ถวายพระองค์
เป็นพระราชกุศลเพื่อพระองค์ทรงพระเจริญ ๐ ฯฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า "ศักดิ์เรือง วลี"

วันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒


วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นัดพบ

ความดีงาม
ความเป็นธรรม
ความสุข
เสรีภาพ
สมานฉันท์
.....ความรัก
....สิ่งที่พึงปรารถนา
....แลสิ่งที่มีคุณค่าต่อมวลมนุษยชาติ
คงอยู่ที่ดวงดาว
ไปกันเถอะเพื่อนรัก
เราจะไปพบกัน
.....................ที่บนดวงดาว

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๑ สิงหา ๕๒

กวี..กับ เศรษฐี....และ ผีเสื้อ

............ขณะที่กวีนั่งนอนจินตนา
ค้นหาสิ่งสุนทรสัจธรรม
...........คหบดีก็เครียดคร่ำวุ่นวาย
ขายค้าหากำไร
...........กวีนึกในใจ
โอ้คนเอ๋ยช่างกระไร
ไฉนคิดแต่จะตักตวงไม่รู้พอ
..........ฝ่ายมหาเศรษฐี
เอ่ยออกมาเป็นวจี
ว่าคนอัปรีย์ช่างขี้เกียจสันหลังยาว
วันวันนั่งหาวนอนหาว
ไม่ทำมาหากิน
...........พอดีผีเสื้อบินผ่านมาพบเห็น
จึงไต่ถามตามประเด็น
ว่าเท่าที่อยู่ที่เป็น
พวกท่านพอใจไหมเล่าเจ้านาย
ถ้าหากพอใจ สุขใจและไม่ทำร้ายใครใคร
ก็จงเฉยและเงียบงันไว้
นั่นแหละจึงจะงาม

ศักดิ์เรือง วลี / ๑๑ สิงหา ๕๒

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กำนันผู้ใหญ่บ้าน

๐ เขาคือหลักปักอยู่ทุกหมู่บ้าน
เขาคืออาคารคือศาลาคนอาศัย
เขาคือเถาทายาทมหาดไทย
เขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในกมล
๐ เขาคือผ้รับใช้ในทุกด้าน
เขาคือศาลพิพากษาหาเหตุผล
เขาคือหมอเยียวยาประชาชน
เขาคือคนถือดาบได้เดชา
๐ เขาคือกองทัพหน้าที่กล้าสู้
เขาคือคนรับรู้ทุกปัญหา
เขาคือผู้อดทนตลอดมา
เขาคือเทวดาในบางที
๐ เขาคือนักการที่งานล้น
เขายังมีอิทธิพลโดยหน้าที่
เขาเป็นนักปลุกระดมระดับดี
เขาคือผู้มีสีมีเดช-คุณ
๐ เขาคือผู้ชี้นกเป็นนกได้
เขาคือผู้ชี้ไม้ใครก็หนุน
เขาคือผู้ยิ่งใหญาอย่างนายทุน
เขาคือนักบุญผู้บำเพ็ญ
๐ เขาคือสัญลักษณ์ทุกสังกัด
เขาคือผู้บำบัดปัดทุกข์เข็ญ
เขาคือร่มไม้ให้ร่มเย็น
เขาจึงเป็นทั้งนายเวรและเจ้ากรรม
๐ เขาคือกลไกแห่งราชกิจ
เขาคือผู้พิชิตทุกเช้าค่ำ
เขาคือผู้เสียสละใฝ่กระทำ
เขาคือผ้นำในธรณินทร์
๐ เขาเป็น "กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน"
เขาเป็นตำนานก่อนท้องถิ่น
เขาเป็นสารพัดอัศวิน
เขาเป็นเม็ดดินแห่งมหาปฐพี
เขาเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
เขาเป็นเจ้าพนักงานแห่งท้องที่
เขาเป็นนักปกครองที่แสนดี
เขาเป็นศักดิ์ศรีแห่งสังคม
ขอให้กำลังใจแด่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
เนื่องในวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ๑๐ สิงหาคม
ศักดิ์เรือง วลี / ๑๐ สิงหาคม ๕๒

หมาสามัญประจำบ้าน

๐ เป็นสัตว์เลี้ยงแสนดีที่พันผูก
เป็นดังลูกดังเพื่อนแท้ช่วยแก้เหงา
เป็นที่รักที่เอ็นดูอยู่กับเรา
ทั้งยังเห่าเฝ้าบ้านงานประจำ
๐ กลับจากงานเหนื่อยล้าเข้ามารับ
อยากให้จับให้หยอกออกน่าขำ
อยากอยู่ชิดเคียงใกล้ให้ลูบคลำ
ทุกเช้าค่ำนำไปเที่ยวอย่างเชี่ยวชาญ
๐ ยามกินข้าวก็ชอบหมอบอยู่ใกล้
พอจะได้ส่วนแบ่งแห่งอาหาร
แกล้งทำเฉยก็เห่าเตือนเหมือนขอทาน
วิ่งเข้าออกนอก-ในบ้านพล่านทั้งวัน
๐ ถ้าขาดมัน คงเหงาใจไม่สนุก
ยามมีทุกข์คงจับไข้ให้ไหวหวั่น
จิตฟุ้งซ่าน ซึมเศร้าเหงาทุกวัน
"หมาสามัญประจำบ้าน" วานอยู่ยืน
ศักดิ์เรือง วลี / ๙ สิงหา ๕๒

ลูก

๐ แม่ต้นเดียวหนักหน่วงด้วยห่วงลูก
ที่พันผูกไม่น้อยนับร้อยหวี
รู้ว่าลูกมีคุณค่าเกิดมาดี
จึงแม่นี้ยอมทนได้ไม่ระอา
๐ หากว่าลูกเกิดมาหาค่าไม่
ก็อย่าให้แม่มีเสียดีกว่า
นอกจากคอแทบหักหนักอุรา
ยังถือว่าไม่น่ารักหนักแผ่นดิน

ศักดิ์เรือง วลี / ๙ สิงหา ๕๒


วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรา

๐ เรามาจากรากเหง้าเผ่าเดียวกัน
มีพงษ์พันธุ์ต้นตอร่วมหน่อเนื้อ
มาจากกิ่งจากก้านที่จานเจือ
ต่างกูลเกื้อต่อกันเป็นอันดี
๐ ด้วยสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทแน่น
เป็นปึกแผ่นเกี่ยวข้องอย่างน้องพี่
เราเติบโตโดยพึ่งพาสามัคคี
เราพร้อมที่จะปกป้องยอดของเรา
๐ เราพร้อมที่จะเลี้ยงดอกและออกผล
ไม่กังวลเรามีเราไม่มีเขา
แม้สองสีไม่แตกต่างยังเป็นเรา
รวมกันเข้าเป็นแผ่นใหญ่ใบเดียวกัน
ศักดิ์เรือง วลี /๙ สิงหา ๕๒

ขอทุ่งคืนให้ทุย

๐ โดยหลักฐานโบราณคดีชี้บ่งไว้
ว่าควายไทยถูกใช้งานมานานมาก
เป็นสัตว์เลี้ยงร่างกำยำทนลำบาก
เป็นคู่ทุกข์คู่ยากชาวนาไทย
๐ แรงแห่งเจ้าพลิกฟื้นผืนดินกว้าง
ที่รกร้างให้มีค่ามาแต่ไหน
ได้ปลูกข้าวกสิกรรมทำนาไร่
สังคมไทยได้อุดมสุขสมบูรณ์
๐ ร่างของเจ้ายังพลีไปให้ทุกส่วน
หมดทั่วถ้วนทั้งกายมิได้สูญ
สร้างความอิ่มโอชาไม่อาดูร
แม้แต่มูลของเจ้าเอาปรุงนา
๐ เจ้าลากเกวียนคราดไถไม่ท้อถอย
ทั้งหีบอ้อยฉุดระหัดไม่ขัดขา
ให้ขี่หลังเข้าไร่ลงไปนา
อีกขึ้นป่าลุยน้ำตามสั่งการ
๐ ไม่เรียกร้องสิ่งใดกับใครเขา
มีฟางข้าเศษหญ้าเป็นอาหาร
น้ำขุ่นตมตามบึงหนองคลองลำธาร
ก็สำราญบานใจแก่ไอ้ทุย
๐ เจ้ามีทุ่งมีป่าดังว่าบ้าน
ไม่เคยคร้านใครไม่ชมอย่าถ่มถุย
แม้ดินเหนียวดินทรายเอากายลุย
อย่าพูดชุ่ยกระทบมาว่า "ไอ้ควาย"
๐ มาบัดนี้นา-หนอง เคยท่องเล่น
เปลี่ยนแปรเป็นตึกใหญ่ไว้ค้าขาย
ธารเคยท่องทำถนนจนเรียงราย
แล้ว "ไอ้ควาย" จะลุยเล่นได้เช่นไร
๐ ขอเถิดนะคนไทยเห็นใจบ้าง
ขอที่ว่างไว้ให้ควายจะได้ไหม
ขอทุ่งนาคืนให้ทุยพาลุยไป
ให้ดินไทยคืนเป็นทองด้วยผองทุย

ศักดิ์เรือง วลี /๙ สิงหา ๕๒


บัว

๐ สู้ลงแรงลุยตมงมหาเหง้า
แล้วควักเอาเจ้ามาจากท้องร่อง
บรรจงใส่ในกระถางมีอ่างรอง
ครั้นไม่นานดอกผุดผ่องจนมองเพลิน ๐ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี / ๙ สิงหา ๕๒

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ป่าไหม้ในป่าไม้ใกล้ป่าม้วย

๐ มองพฤกษาป่าไม้ในวสันต์
มีพืชพรรณผลิยอดใบได้น้ำฝน
ครั้นหน้าแล้งแห้งเปล่าเศร้ากมล
ด้วยผู้คนรุมเข้าเผาทำลาย
๐ บอกเหตุผลยินเสียงเพียงเพื่อว่า
เข้าไปหาอาหารอันหลากหลาย
ทั้งสัตว์เล็กสัตว์น้อยมีมากมาย
ซึ่งซ่อนกายแอบคู้อยู่พงไพร
๐ บ้างก็ว่าเผาไฟให้ผักหวาน
เร่งผลิผ่านก้านยอดถอดออกใหม่
ดอกกระเจียวก็เร่งรุดผุดไวไว
เขาจะได้อาหารอันโอชา
๐ จึงวิงวอนเลิกคิดสิ่งผิดนี้
ตรองให้ดี หากไม่ให้ ไฟไหม้ป่า
ความอุดมสมบูรณ์และคุณค่า
จักเดินหน้าต่อไปไม่รีรอ
๐ ทรัพยากรจากที่มีทวีคูณ
เพิ่มพอกพูนขึ้นได้ไม่สึกหรอ
จะเก็บหากินใช้ได้เพียงพอ
จึงร้องขอพวกเราไม่เผา(ป่า)กัน ๐๐ ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี / ๘ สิงหา ๕๒

เข้าพรรษา

๐ อยู่กระถางจำพรรษาที่หน้าบ้าน
ทำหน้าบานอ่านธรรมนำเสนอ
ผ่านเกษรดอกใบไปบำเรอ
เฝ้าปรนเปรอสาธุชนคนผ่านทาง ๐ ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี /๘ สิงหา ๕๒

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การรับรู้

ขอให้ได้รับรู้
......อย่างโง่งม
ในสิ่งน่าปีติชื่นชม
ยังดีกว่า
ให้รับรู้
......อย่างชาญฉลาด
ในสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดและมัวหมอง

ศักดิ์เรือง วลี /๒ สิงหา ๕๒

ได้โปรดเถิด

ฉัน....กำลังจะหลุดพ้น
หลุดพ้น....
แล้วก้าวไปสู่...หนทางแห่งความดีงาม
หนทางแห่งความเป็นจริง
หนทางแห่งศักดิ์ศรี
ได้โปรดเถิด
อย่าหยุดรั้งฉันเลย
โปรดอย่าฉุกรั้งฉันไว้
ด้วยความรักของเธอเลย

ศักดิ์เรือง วลี / ๒ สิงหา ๕๒

แด่ น้ำใส

๐ น้ำฝนใสสะอาด
ไหลหยดหยาดล้างคราบโคลน
น้ำใสถูกเปื้อนปน
เป็นขุ่นข้นขังแอ่งดิน
๐ ควายคะนองที่หมองหม่น
พลันหลุดพ้นจากมลทิน
เคลือบไคลโดยโคลนดิน
ล้างหมดสิ้นสดใสครัน
๐ อนิจจาน้ำใสใส
กลับขุ่นไปดูน่าขัน
........ช่างเถิดนะช่างมัน
........คงถูกกลั่นกลับคืนมา

ศักดิ์เรือง วลี /๒ สิงหา ๕๒