วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

เจรจา


เจรจา
๑. อย่าคิดเอาแต่ได้..........ฝ่ายตน
พวกอื่นเขาก็คน........คิดบ้าง
หากหวังบรรลุผล.......ผาสุก
จงอย่ายืนหยัดข้าง.......กระต่ายตั้งขาเดียว
๒. ทางเดินมีมากเลี้ยว....ทางไป
ทางใครย่อมทางใคร.....ไม่กั้น
ทางขนานหรือแยกไป.....ไม่ว่า
ทางร่วมทางรวมนั้น....ไม่ไร้หากประสงค์
๓. ทุกฝ่ายลดทิฐิให้.....เหลือศูนย์
เหตุผลที่สมบูรณ์.....จึ่งอ้าง
จังหวะที่ผลพูน.....พึงพูด
ถึงคราวที่ฟังบ้าง.....จงตั้งใจฟัง
๔. หากหวังบรรลุข้อ.....เจรจา
จงอย่ายึดอัตตา......มั่นไว้
ควรเสาะแสวงหา.....จุดร่วม
กำจัดจุดต่างให้......ลดน้อยโดยพลัน
๕. เจรจาโดยเจาะให้ .....ตรงประเด็น
เหตุผลยกให้เห็น.....จงได้
อย่าชักใบให้เรือเบน....หัวเบี่ยง
วาจาที่พึงใช้.....ก้าวร้าวไม่ควร
๖. พูดจากันหลายครั้ง.....อดทน
คุยกันกว่ามีผล.....รับได้
ถอยหลังกันทุกคน.....ดีกว่า
ถึงจุดพอรับไซร้.....อย่ารันดันทุรัง
ศักดิ์เรือง วลี / บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๑ มีนา ๕๓

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

เปลี่ยนไป


๑. .................................พี่น้องเอ๋ย
กระไรเลยจึงเปลี่ยนไปได้เพียงนี้
ลืมครรลองของเราเก่าก่อนมี
สามัคคีปรองดองพร่องลงไป
๒. ขึ้นขัดขวางขัดขืนเพราะใครหนอ
มาขัดขอขัดใจเพราะใครไหน
ทำดื้อดึงดุดันด้วยอันใด
แล้วสังคมกำไรฤาขาดทุน
๓. เราเคยอยู่อย่างญาติอย่างพี่น้อง
ถูกปกครองโดยใช้ธรรมนำเกื้อหนุน
ต่างอุ้มชูช่วยเหลือแลเจือจุน
ความอบอุ่นอบอวลทั่วแผ่นดิน
๔. ถึงหนักนิดเบาหน่อยค่อยพูดจา
ยึดศรัทธาความเป็นไทยใจถวิล
ช่วยกันสร้างช่วยกันสรรค์หมั่นทำกิน
เรื่องมลทินบาดหมางใจจึงไม่มี
๕. มาวันนี้เป็นอะไรไปกันหนอ
จึงแตกคอรุนแรงแบ่งเป็นสี
เกิดแตกแยกขาดรักสามัคคี
ตัดไมตรีสายสัมพันธ์สั่นสะเทือน
๖. จึงวิงวอนมาที่เพื่อนพี่น้อง
เรามาลองหยุดวจีที่เชือดเฉือน
หันพูดจาแบบคนไทยในครัวเรือน
โดยลืมเลือนร้าวฉานที่ผ่านมา
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๘ มีนา ๕๓

วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

ด้วยเหตุใด







๑. ฝากลมพัดตัดพ้อไปต่อว่า
ต้นธาราลืมเลือนไม่เลื่อนไหล
ลืมปล่อยน้ำล่องลงดังจงใจ
แกล้งปล่อยให้เหือดแห้งหมดแรงโลม
๒. แม่เคยไหลแม่เคยเลี้ยงแม่เคยหล่อ
แม่เคยห่อแม่เคยหุ้มแม่เคยโหม
แม่เคยโอบแม่เคยอุ้มชุ่มชะโลม
แม่เคยโรมแม่เคยรันแม่เคยรอง
๓. มาบัดนี้แม่นอนแผ่จนแน่นิ่ง
ไม่ไหวติงหมดเรี่ยวแรงจะร่ำร้อง
น้ำเคยไหลเคยรี่มีให้มอง
น่านน้ำนองเหลือตำนานเล่าขานกัน
๔. เหลือซากเดนเป็นทรายตันใต้ท้อง
ดูหม่นหมองหม่นไหม้ไร้สีสัน
ดูหงอยเหงาเศร้าซมตรมจาบัลย์
ไม่รู้วันรู้คืนจะฟื้นแรง
๕. ยังไม่รู้ต้นสายถึงปลายเหตุ
จึงสมเพชหดหู่ดูแสลง
ไม่เห็นใครเอ่ยถ้อยคอยชี้แจง
เป็นเหตุให้เริ่มกินแหนงคลางแคลงใจ
๖. จึงฝากลมทวนเหนือเพื่อไถ่ถาม
ทั่วทุกคามที่เกี่ยวข้องลองขานไข
ที่แม่โขงขื่นขมเพราะมือใคร
ด้วยเหตุใดทรมาน ผู้มารดา
บทกวีนี้นิพนธ์ในวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๓ วันน้ำโลก
ภาพถ่ายฝั่งแม่นำโขง ตรงโรงแรมแม่โขงรีเวอร์วิว จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๓
โดย ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ร้อยเอ็ด



วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

หาดทลาย

หาดทลาย

๐ ด้วยเหตุใดหาดทรายจึงหายสวย

คงเป็นด้วยร้อยเล่ห์ทะเลไหว

หรือเป็นเพราะกาลเวลาพาเป็นไป

ฤาลมร้ายพัดมล้างอย่างรุนแรง

๐ หาดทรายขาวยาวเหยียดเบียดแนวฝั่ง

เคยนอนนั่งมองตาวันยามยอแสง

มาบัดนี้ถูกปักลงด้วยธงแดง

เพื่อแสดงเขตขันธ์อันตราย

๐ โอ้หาดทรายมาสลายย้ายจากฝั่ง

ทิ้งความหลังเหลือภาพหลอนค่อนจะสาย

อกอาดูรสูญสุนทรียาน่าเสียดาย

หาดทลายด้วยใดหรือ....ก็ "มือคน"

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๕ มีนา ๕๓


วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ในวังวน

๑. โลกของคนคงกังวลคนของโลก
คนบนโลกโศกคละสุขไปทุกที่
แม้ต่างคนต่างมุ่งหมายในทางดี
แต่ยังมีสิ่งไม่ดีผ่านเข้ามา
๒. คนทุกคนวนเวียนเปลี่ยนประสบ
ต่างพานพบมากเหตุการณ์ผ่านมาหา
ต่างโอกาสต่างสถานกาลเวลา
ทั้งหนักเบาล้วนผ่านมากันทุกคน
๓. เมื่อคนเรายังไม่ตายหายใจอยู่
ต้องพร้อมสู้ตั้งสติมิสับสน
สิ้นชีพลงเมื่อใดได้ผ่านพ้น
จากวังวนวงเวียนวัฎฎกรรม
๔. เมื่อยังอยู่ต้องพร้อมสู้ทุกรูปแบบ
แม้เจ็บแปลบแสบทรวงโดนล่วงล้ำ
ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ประจำ
พร้อมจะทำหน้าที่ที่มีมา
๕. ตัดกังวลออกไปไม่คิดมาก
แม้ลำบากต้องฝืนรื่นเริงร่า
ให้จิตใจได้พักสักเวลา
แล้วกลับมากังวลใหม่ไม่ว่ากัน
๖. จงชาชินกับวังวนที่เป็นพลวัต
มีติดขัดอยู่บ้างอย่างแปรผัน
มีก้าวเดินมีหยุดบ้างช่างหัวมัน
รู้เท่าทันวังวนพ้นพิษภัย
๗. โลกของคนอย่ากังวลคนของโลก
มีสุขโศกอย่างนี้มาแต่ไหน
โลกก็หมุนคนก็วุ่นกันเรื่อยไป
ไม่เป็นไรโลกยังอยู่คู่กับคน

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๙ มีนา ๕๓

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

ดวงใจของฉัน

.......ดวงใจของฉัน
ดวงใจแห่งนิรันดร์
เธอฝันที่จักเห็นอรุณรุ่งทางเบื้องตะวันตก
ฉันขอฝันด้วย
.......ดวงใจแห่งฉัน
ดวงใจแห่งนิรันดร์
เธอฝันที่จักกางใบเรือแล่นตามลมไปบนพื้นทะเลทราย
ฉันขอฝันด้วย
.......ดวงใจแห่งฉัน
ดวงใจแห่งนิรันดร์
เธอฝันที่จักเป็นละอองทิพย์แห่งรุ้งทองฟ่องฟ้าในคืนเดือนแรม
ฉันก็จักขอฝันด้วย
แลจักขอตามติดเธอไปยังขอบฟ้าไกลโพ้น
ชั่วนิจนิรันดร์
ด้วยว่าเธอคือดวงใจนิรันดร์แห่งฉันมั่นคง
ศักดิ์เรือง วลี / ๙ มีนา ๕๓

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

ไหว้พระธาตุพนม

๐ ประณมประณตน้อม นมัสการ
พระธาตุโปรดประทาน พรให้
ประชาชาติสมัครสมาน เสมออยู่
ความรักคนอย่าไร้ อย่าแล้งเลือนหาย
ศักดิ์เรือง วลี /๒มีนา ๕๓