วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รัตติกาล

(ภาพถ่ายจากอวกาศแสดงให้เห็นเส้นแบ่งวันคืนบนโลก
...ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อหาของบทเรียงถ้อยร้อยคำนี้)

รัตติกาล

ม่านอบายอันมืดมิดแลมืดมนแห่งรัตติกาล

จักถูกคลี่เปิดออกได้

โดยรังสีธรรมแห่งดวงตาวัน

แต่..ผู้คนเอย

จงทำใจแลเตรียมพร้อมเสมอ

สำหรับการกลับมา..ของรัตติกาล

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๓ พฤศจิกา ๕๓


วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำแห่งชีวิต

(ภาพจาก dhcdeeka.com)
๐ น้ำคือแม่ แม่คือน้ำ นำชีวิต
ที่อุทิศ หยาดทิพย์ ชโลมโลก
ทั้งมนุษย์ สัตว์พืช ได้บริโภค
อุปโภค จนมีสุข ทุกชีวี
๐ อันบุญคุณ ของน้ำ นั้นล้ำเลิศ
สารประเสริบ สวรรค์ให้ ไว้ที่นี้
โลกมนุษย์ สุดสดใส ที่ได้มี
น้ำหล่อเลี้ยง โลมชีวี เป็นประจำ
๐ หากขาดน้ำ วันใด อยู่ไม่ได้
จงเอาใจ ใส่ใจ ในสายน้ำ
จงอาทร เชิดชู คู่ธารธรรม
เพื่อมีน้ำ แห่งชีวิต นิจนิรันดร์
(วันลอยกระทง ฉันกราบไหว้น้ำ เพื่อรำลึกในบุญคุณ)
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๑ พฤศจิกา ๕๓

ฉัน..(ผู้มีเกียรติ)

๑. ยามฉันกลับสู่บ้าน...รังนอน
กองเกียรติยศรอสลอน...โอบล้อม
ฉันเดินผ่านแถวตอน...เรียงระกะ
วันทยหัตถ์พรึบพร้อม...ยื่นหน้ารายงาน
๒. โมก ชบา พุดซ้อน...บานบุรี
ยี่เข่ง พุดสามสี...คัดเค้า
รำเพย ปีบ มะลุลี...พุดจีบ
เล็บมือนาง บานเช้า...อีกแก้วเจ้าจอม
๓. ประยงค์ หอมเจ็ดชั้น...หิรัญญิการ์
มะลิหลวง กระดังงา...จันทน์กะพ้อ
พวงคราม มธุลดา...สายหยุด
พวงโกเมน ลั่นทมล้อ...สาละ สร้อยอินทนิล
๔. ยังมีอีกมากไม้...หลายทัพ
ยืนรอเพื่อต้อนรับ...ทุกต้น
ถึงฉันโซเซตกอับ...จากที่อื่น
ฉันยังมีเกียรติล้น...ที่บ้านฉันเอง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๐ พฤศจิกา ๕๓

สีแห่งศรัทธา

๐ สายลมเหนือพัดลมหนาวผ่านเข้ามา...เพื่อบอกปลาอย่าไถลให้คืนหนอง
เพื่อบอกข้าวในนาอย่าคะนอง...ทอดรวงทองรอเคียวมาเกี่ยวเอา
๐ เหมือนข้าวรู้ผู้คนผู้ข้นแค้น...นำชีพแขวนฝากไว้ในต้นข้าว
จึงพร้อมกันขานรับกับเรื่องราว...โบกกรูกราวเป็นเพลงประเลงรอ
๐ แต่งตัวสวยด้วยสีทองทั่วท้องนา...เป็นสีแห่งศรัทธาที่คนขอ
เป็นสีแห่งความรักที่ถักทอ...เป็นสีแห่งความเพียงพอต่อสังคม
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๙ พฤศจิกา ๕๓

ข้าวล้ม คนลุก

๐ ถึงแม้ ปีนี้ มีน้ำ...ท่วมซ้ำ ท่วมซาก มากครั้ง
แต่ว่า นาดอน ก็ยัง...สะพรั่ง รองทอง รองเรือง
๐ นาทาม ที่น้ำ ไม่ขัง...เปล่งปลั่ง มีรวง สุกเหลือง
เห็นแล้ว หัวใจประเทือง...เป็นเรื่อง มีดี ในร้าย
๐ ข้าวงาม ท่วมท้น ต้นล้ม...โดนลม คอรวง ถ่วงถ่าย
ลงนอน พร้อมเพรียง เรียงราย...ท้าทาย ชาวนา ในที
๐ ข้าวล้ม แต่ดล คนลุก...เป็นสุข สมหวัง ครั้งนี้
รีบเกี่ยว อย่ารอ อย่ารี...โชคดี มีข้าว ไว้กิน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๘ พฤศจิกา ๕๓

รอเรือ

๐ เรือน้อย ลอยน้ำ ลำนี้...ลำน้อย ลอยลี้ หลับใหล
หลบเร้น ไม่รู้ หรือไร...ใครใคร ลำบาก มากมาย
๐ ล่องลอย ลอยล่อง ท่องน้ำ...คนช้ำ น้ำท่วม เสียหาย
คอยท่า ช่วยเหลือ เรือพาย...ฝากกาย หนีน้ำ นำพา
๐ มีข้าว มีของ ต้องใช้...นำใส่ เรือน้อย ลอยหน้า
นำไป ชุบชูชีวา...พึ่งพา ฮักแพง แบ่งปัน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๗ พฤศจิกา ๕๓

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แหล่งน้ำเพื่อชีวิต

๑. การเลือกแหล่งลงหลักเพื่อปักฐาน...แต่โบราณพึ่งพิงอิงอาศัย
โดยถือเอาเรื่องน้ำเป็นเรื่องใหญ่...เพื่อจะได้สุขสันต์ตามครรลอง
๒. ชื่อหมู่บ้านมีแหล่งน้ำขึ้นนำหน้า...ห้วย ลำ ท่า กุด แก้ง แก่ง บึงหนอง
แม่ แคว คุ้ง บุ่ง ซำ คำ แอ่ง คลอง...พุ ซับ ร่อง ปาก อ่าง ราง วัง เวิน
๓. เมื่อมีน้ำชีวิตสุขทุกวิถี...มีวิธีสร้างชีวีอย่างที่หวัง
เป็นสังคมมั่นคงและมั่งคั่ง...เป็นขุมคลังอาหารอันอุดม
๔. มาวันนี้แหล่งน้ำช้ำไปหมด...พื้นที่หดหายไปให้ขื่นขม
ในหน้าแล้งแห้งขอดเป็นขุ่นตม...โดนแดดลมระเหยแห้งระแหงดิน
๕. ครั้นหน้าฝนน้ำมากหลากไหลบ่า...ท่วมไร่นาท่วมบ้านทุกย่านถิ่น
ถึงเวลาหรือยังย้อนยลยิน...หวนถวิลถึงขุมทองที่เคยมี
๖. ช่วยขุดลอกเยียวยามาฟื้นฟู...พวกแหล่งน้ำอันมีอยู่ทุกถิ่นที่
แล้วบำรุงรักษาไว้ให้ดีดี...เราจะมีอ่างเก็บน้ำอยู่ทั่วไป
๗. เมื่อน้ำมามีทางให้ไปได้คล่อง...น้ำไหลล่องปลายทางลงอ่างใหญ่
จะปลูกพืชเพาะพันธุ์ อาบ กินใช้...ก็ทำได้ไม่ขัดสนสักคนเลย
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๔ พฤศจิกา ๕๓

ผ้าป่าแนวใหม่ (เพื่อแหล่งน้ำ)

(ภาพบันทึกการขุดลอกบึงพลาญชัยของเมืองร้อยเอ็ด ช่วงปีพ.ศ. ๒๔๖๙ -๒๔๗๑
แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมแรงในการรักษาและฟื้นฟูแหล่งน้ำของชุมชน)
ผ้าป่าแนวใหม่(เพื่อแหล่งน้ำ)
๑. ยามน้ำมากหลากไหลไปกว้างขวาง...เนื่องจากทางให้ไหลไม่เหลือหลอ
ทั้งห้วยหนองคลองบึงเคยมากพอ...ถูกตันท่อถมดินจนสิ้นทาง
๒. สมัยก่อนมีห้วยคลองเป็นร่องน้ำ...เพื่อทอดนำน้ำไหลไปเบื้องล่าง
ซึ่งมีบึงมีหนองรองเป็นอ่าง...ธรรมชาติสร้างสมดุลเสมอมา
๓. มาวันนี้ห้วยไม่เห็นน่าเป็นห่วง...ถึงเวลาต้องทักท้วงทวงถามหา
พวกลำห้วยคูคลองเคยมีมา...จักต้องฟื้นคืนค่าทั้งหนองบึง
๔. ควรร่วมแรงร่วมจัดร่วมศรัทธา...กองกฐินผ้าป่าให้ทั่วถึง
เคยทอดสร้างอารามจนงามซึ้ง...เปลี่ยนมาคิดคำนึงถึงแหล่งน้ำ
๕. ลองฉีกแนวทอดกฐินทอดผ้าป่า...หาทุนมาฟื้นแหล่งน้ำให้งามล้ำ
ช่วยขุดลอกบึงหนองคลองประจำ...อีกทั้งนำเงินไปไถ่ห้วยคืน
๖. เพียงหนึ่งปีที่ทำบุญเพื่อแหล่งน้ำ...คงช่วยทำลำห้วยหายเขินตื้น
อีกบึงหนองรองรับน้ำได้ยั่งยืน...ความชุ่มชื้นคืนมาหาแผ่นดิน
๗. เรื่องน้ำท่วมคงบรรเทาเบาลงมาก...ก็เนื่องจากน้ำระบายถ่ายได้สิ้น
เมื่อน้ำมาน้ำมีที่รองริน...เสริมชีวินสุขสันต์แบบบรรพกาล
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๓ พฤศจิกา ๕๓

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ดอกไม้ที่พร้อมบาน

๐ เติมเต็มคุณค่าได้ นานวัน
รูปทรงแทรกสีสัน ใส่ให้
แอบอบร่ำไออัน อวลกลิ่น
แซมรักซุกซ่อนไว้ พรั่งพร้อมจึ่งบาน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๑/๑๑/๕๓

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รักร่วมชาติ

๐ เอาแดดลม ประสมน้ำ ประสมฟ้า
เอาหินผา ดินทราย หมายประสาน
เอาพืชพรรณ อัญมณี มีประมาณ
เอาข้าวปลา อาหาร อันอุดม
๐ เอาบรรดา สิ่งดี ที่มีค่า
เอาเข้ามา รวมกัน ผสาน ผสม
เป็นสมบัติ เป็นคุณค่า ของสังคม
หว่านไปพรม พรายพร่าง อย่างสมดุล
๐ ความประสงค์ หวังขจัด ความขัดแย้ง
คนร่วมแรง ร่วมใจ ไม่ว้าวุ่น
เลิกรบรา ฆ่าฟัน หันเจือจุน
ให้ต้นทุน มีเท่า มีเทียมกัน
๐ เกิดมาแล้ว ร่วมกัน ในชาตินี้
อยากให้ มีจิตใจ ใฝ่รักมั่น
"รักร่วมชาติ" ในชาตินี้ ขอเท่านั้น
ชาติหน้ามันเป็นเช่นไร ไม่ขอเลย
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๐ พฤศจิกา ๕๓

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปัญหาที่มองเห็น (แบบชาวบ้าน)

(ภาพบึงพลาญชัยกลางเมืองร้อยเอ็ด ..ซึ่งเป็นเมืองที่วางผังเมืองดีมาแต่โบราณ คือมีคูน้ำรอบเมือง
และยังมีบึงใจกลางเมือง เมื่อมีการขุดลอกให้ดี สามารถระบายน้ำได้ดีและรวดเร็ว น้ำจึงไม่ท่วมเมือง)
๑. โบราณ การสร้างเมือง...นับเป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน
ที่ตั้ง แห่งนาคร...เป็นที่ดอน จึงจะดี
๒. ไม่ไกล จากแหล่งน้ำ...ช่วยชูค้ำ นำสุขี
หล่อเลี้ยง โลมชีวี...สมเป็นที่ เพาะพืชพรรณ
๓. คูน้ำ ขุดรอบเมือง...นับเป็นเรื่อง ที่เหนือชั้น
ข้าศึก หากโรมรัน...มีน้ำกั้น ยากรุกราน
๔. อีกทั้ง เป็นพื้นที่...รองวารี ของเมืองบ้าน
ไหลลง ระบายธาร...ไม่ร้าวราน ยามน้ำหลั่ง
๕. เมืองเก่า ณ วันนี้...ทุกถิ่นที่ น้ำท่วมขัง
ด้วยว่า การวางผัง...ขยายยัง แถบชานเมือง
๖. ที่อาศัย บ้านจัดสรร...ถมดินกัน อย่างสิ้นเปลือง
รายรอบ ชายขอบเคือง...ทางเลี่ยงเมือง แถมเข้าไป
๗. ดินสูง จึงปิดล้อม...ถนนอ้อม โอบเมืองไว้
ตัวเมือง ดังกระทะใหญ่...รับการไหลคืนวารี
๘. ลำห้วยและคลองซอย...ร่องใหญ่น้อย ที่เคยมี
ถูกถม ตันทุกที่...ไม่เห็นมี เหลือห้วยใด
๙. น้ำหลาก อย่าโทษน้ำ...ธรรมชาติ น้ำต้องไหล
จากสูง ไล่ลงไป...ลงต่ำใต้ ธรรมดา ๐๐ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๙ พฤศจิกา ๕๓

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำก้อนใหญ่

๐ อันภาษา พาสื่อสาร ผ่านสมัย
มีเกิดใหม่ ใส่สีสัน มาเสมอ
ใช้บางถ้อย ร้อยคำ เรียงบำเรอ
คงได้เจอ ได้นำ จำนรรจา
๐ จากการเกิด อุทกภัย ในปีนี้
ทำให้มี อุบัติ วัจนะภาษา
เป็นรายงาน ข่าวสาร ผ่านสื่อมา
"น้ำก้อนใหญ่ ไหลบ่า จากเขื่อนชลฯ"

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๘ พฤศจิกา ๕๓


วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นับถือ

๑. เห็นพี่น้องของเราชาวปักษ์ใต้....โดนพิษภัยพายุซัดพัดถล่ม
เรือประมงหลายลำคว่ำล่มจม....ทั้งวิกฤติดินพังถมถึงล้มตาย
๒. อีกบ้านช่องทรัพย์สินพังสิ้นหมด....สุดรันทดญาติพี่น้องต้องสูญหาย
ที่ทำกิน สวนยางถูกทำลาย....คนไม่ตายก็เหมือนตายไปทั้งเป็น
๓. ก่อนหน้านี้นับสิบปีไม่มีสุข....มีแต่ทุกข์คุกคามเป็นว่าเล่น
ทั้งระเบิดปืนเปรี้ยง เสี่ยงเช้าเย็น....มีการฆ่าการเข่นเป็นรายวัน
๔. มาวันนี้เคราะห์กรรมซ้ำเติมใส่....โอ้พี่น้องชาวใต้ไหวไหมนั่น
เห็นหลายคนยังยิ้มได้ไม่มีหวั่น....ทำใจได้อย่างไรกันนั่นยอดคน
๕. จึงนับถือในจิตใจของพี่น้อง....ขอยกย่องชูเชิดอย่างเลิศล้น
ขอส่งใจเอาใจช่วยทุกทุกคน....ให้ผ่าพ้นวิกฤติการณ์กันเสียที
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๗ พฤศจิกา ๕๓


วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

มีได้ มีเสีย

๐ น้ำมากมีผลได้...ผลเสีย
นาลุ่มลุยนัวเนีย...ในน้ำ
นาดอนไม่อ่อนเพลีย...เสียเที่ยว
กอข้าวงอกงามล้ำ...ทุ่งพลิ้วรวงทอง
๐ นาดอนเก็บเกี่ยวแล้ว...แลหลัง
นาลุ่มน้ำท่วมขัง...เน่าแล้ว
ผลผลิตแบ่งปันยัง...นาลุ่ม
ไทยช่วยไทยให้แคล้ว...คลาดพ้นทุกข์ภัย
๐ นอกเหนือจากเรื่องข้าว...เรื่องนา
เรื่องอื่นยังพอหา...ส่วนได้
ประสบการณ์อันมีค่า...ความแกร่ง
อีกน้ำใจเราไซร้...มีให้โลกเห็น ๐๐ฯฯ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๖ พฤศจิกา ๕๓

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โชคร้าย แต่เคราะห์ดี

(ภาพตัวอย่างภูเขาไฟที่กำลังปะทุ
มีอยู่ในหลายประเทศ แต่ที่ประเทศไทยไม่มีแล้ว)
๑. เมืองไทย ของเรานี้....อุดมดี มีแผ่นดิน
ที่เป็น แหล่งทำกิน....มีทรัพย์สินอันโสภา
๒. อู่ข้าว คู่อู่น้ำ....วัฒนธรรม ล้ำเลอค่า
คนไทย แต่ไรมา....มีศรัทธา สามัคคี
๓. ผืนดิน ที่ราบลุ่ม....ใช้จนคุ้ม ทุกพื้นที่
ผลิตผล อันมากมี....เป็นโชคดี เหนือโชคใด
๔. แต่แล้ว ดังโชคร้าย....โลกกลับกลาย หลายพิสัย
ภาวะ โลกร้อนไซร้....มาทำให้ ไทยต้องเศร้า
๕. ที่ลุ่ม ใกล้แหล่งน้ำ....พื้นที่ต่ำ ใต้เชิงเขา
ถูกทับ ทนรับเอา....น้ำไหลเข้า เต็มอัตรา
๖. น้ำมา น้ำตาไหล....ไทยช่วยไทย ซับน้ำตา
แต่เรา ยังเบากว่า....หลายพารา ในโลกนี้
๗. เคราะห์ดี ที่เมืองไทย....แผ่นดินไหว เราไม่มี*
ภูเขาไฟ ดับเข้าที่....และไม่มี ทุพภิกขภัย ๐๐ฯฯ
..................
* แผ่นดินไหวอาจมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นรุนแรง

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๕ พฤศจิกา ๕๓


วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฉากต่อไป

(ภาพจาก esanclick.com)
๑. เมื่อไม่นานเราเปลี่ยนฉากจากสีเขียว...เป็นน้ำเชี่ยวเจิ่งนองเต็มท้องที่
ทั้งถนนใหญ่น้อยซอกซอยมี...น้ำล้นปรี่เป็นคูคลองทุกช่องทาง
๒. มองทางไหนมีแต่น้ำไม่มีท่า...มองทุ่งนาดังคลื่นเห่ทะเลกว้าง
ภาพข้าวหลอนยิ่งทำให้ใจลอยคว้าง...สุดอ้างว้างวิเวกและวังเวง
๓. เมื่อน้ำมาไม่นานน้ำก็ไป...ไม่ทันไรพลันเปลี่ยนฉากอย่างรีบเร่ง
เป็นลมหนาวพัดกราวราวกับเพลง...ที่บรรเลงสั่นสะท้านบ้านสะเทือน
๔. ภาพผู้คนผิงไฟอิงไอฟ้า...ภาพไฟป่าหมอกควันนั้นยิ่งเหมือน
ม่านสลัวละครเศร้าเร้าใจเตือน...ไม่ลืมเลือนบทเศร้าปีเก่าก่อน
๕. ฉากต่อไปคงเดาได้ไม่ยาก...ดินแห้งผากแตกระแหงแข่งสิงขร
ความแห้งแล้งรุมรุกทุกดินดอน...ความรุ่มร้อนเผาดินแดนแสนกว้างไกล
๖. มันยังเป็นละครเก่าเศร้าซ้ำซาก...แต่ไม่อยากให้กังวลจนหวั่นไหว
ขอคนไทยจงเชื่อมั่นประเทศไทย...มาลัยน้ำใจมีให้กันทุกฉากตอน

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๔ พฤศจิกา ๕๓