วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วอนวิญญาณ สืบ นาคะเสถียร

๐ "สืบ" พลีชีพเพื่อให้....สังคมเห็น

สืบป่าสืบประเด็น....เดินหน้า

สืบสงวนส่วนบำเพ็ญ....พิทักษ์ป่า

วิญญาณ "สืบ"ผู้กล้า....ช่วยด้วยป่าหายน์*

*หายน์ หมายถึงหายนะ

......

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑ กันยา ๕๔

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คนกับข้าว

(ภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บนผนังถ้ำผาหมอนน้อย อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

แสดงให้เห็นถึงการรู้จักปลูกข้าวและใช้แรงงานควายในสมัยโบราณ ราว ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว

พันธุ์ข้าวที่ปลูกในสมัยแรกๆจะเป็นข้าวเหนียว ซึ่งชนิดเมล็ดใหญ่จะงอกงามดีในที่สูง

ส่วนชนิดเมล็ดป้อมจะงอกงามดีในที่ลุ่ม ..ภาพและข้อมูลจาก sujitwongthes.com)

๑. พ่อแม่สอน ให้รู้บุญ รู้คุณข้าว....กว่าจะเป็น เมล็ดขาว พราวสลอน

ผ่านกรรมวิธี มากมาย หลายขั้นตอน....ผ่านเย็นร้อน น้ำฝน ปนแดดลม

๒. ทั้งแรงคน แรงวัวควาย ช่วยคราดไถ....ทั้งแรงใจ แรงหวัง ทั้งหวานขม

ทั้งดีร้าย สุขทุกข์ ทั้งลุกล้ม....มันเป็นปม เป็นไป ในท้องนา

๓. คนทำนา บ่าด้าน มือกร้านดำ....ใบหน้าคล้ำ หลังโค้ง โก่งแขนขา

แววตาหม่น คิ้วขมวด ปวดนัยน์ตา....ใส่เสื้อผ้า ขาดวิ่น กลิ่นเหงื่อไคล

๔. ก่อนได้ข้าว สักเกวียน เวียนหัวบ่อย....ช่วงน้ำน้อย คอยฝน จนร่ำไห้

ช่วงน้ำหลาก ภาวนา อย่าพบภัย....ขออย่าให้ ข้าวเน่า น้ำเนานาน

๕. เรื่องของข้าว มิใช่แค่ แก้หิวโหย....หอมข้าวโชย กลิ่นไอ คล้ายไขขาน

บอกเรื่องราว ลึกล้ำ คล้ายตำนาน....เหมือนข้าวมี วิญญาณ ในบุญญา

๖. วอนกินข้าว หมดจด เมื่อคดข้าว....วอนมองข้าว อย่างเชิดชู รู้คุณค่า

วอนให้เกียรติ อุ้มชู ผู้ทำนา....วอนรักษา วัฒนธรรม ทำนาไทย ๐ฯฯ

................

บ้านแมกไม้ หมู่บ้านทุ่งนาหลวง ร้อยเอ็ด /๒๘ สิงหา ๕๔



วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

E.POP (กรุณาอย่าอ่านว่า "อีปอบ")

(การแสดงหมอลำของภาคอีสาน มีหลากหลายรูปแบบ คำร้องก็ดี ทำนองก็ดีรวมไปถึงท่าฟ้อนรำ มีความงดงาม

มีความไพเราะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และยังมีความเป็นสากลคือความสนุกสนานเร้าใจ ถ้ามีการปลุกกระแส

และส่งเสริมให้แพร่หลาย ก็สามารถทำให้เป็นที่นิยมไปในระดับสากลได้ ในต่างประเทศเขายังสร้างกระแสให้วันรุ่นไทย

คลั่งไคล้ได้ อย่างเช่น J.POP ของญี่ปุ่น และ K.POP ของเกาหลี ของเราอาจจะเรียกเป็น E.POPหรือ อีสานป๊อปก็ได้)

๐ ต่างชาติยังเร่งเร้า....ปลุกกระแส

เราไม่คิดดูแล....ต่อต้าน

วัฒนธรรมโดนรังแก....ลามไล่

ไม่นานทั้งเมืองบ้าน....ล่มร้างสมบัติศิลป์

๐ ศิลปะทุกภาคล้วน....ตระการ

คนรุ่นหลังควรสาน....สืบไว้

หลายอย่างมีมาตรฐาน....ระดับโลก

เป็นศิลป์สากลได้....เร่งฟื้นส่งเสริม ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๗ สิงหา ๕๔

พออิ่ม

(สาเก หรือ bread fruit อุดทด้วยคาร์โบไฮเดรท แคลเชียม ไวตามินเอและบี นิยมนำมาเชื่อม แต่ที่บ้าน

เป็นครอบครัวคนอีสานจึงนำมาทำซุบเหมือนซุบหมากมี่ แซ่บดีเหมือนกัน)

๐ เก็บพืชผัก แกงผัด จัดกับข้าว...ของหวานคาว กินใช้จากในสวน

ทั้งสดใหม่ ปลอดภัย ทุกกระบวน...ไม่รบกวน งบประมาณ มากเกินไป

๐ ย้ำกับคน อยู่ข้าง อย่างเข้มงวด...อย่กินอวด กินพออิ่ม ชิมพอไหว

กินพออยู่ อยู่พอยัง ยั้งยาวไกล...อย่าเอาไป เปรียบเปรย ที่เคยมา

๐ ในยุคนี้ อย่าเอาดี ที่เอาหน้า...เอาชีวา ไว้ก่อน จะดีกว่า

ใครเลิศหรู รวยเด่น เป็นอัตตา...ต่างแบบแผน แห่งชีวา ไม่ว่ากัน ๐ฯ

......บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๖ สิงหา ๕๔

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรื่องที่น่าอับอาย

(ภาพจาก my.opera.com ขออนุญาตตั้งชื่อว่า The Parliament theatre)

....๑. หุ่น.....

๐ ไหนใครว่า หมดสมัย ละครหุ่น....ใครว่าหุ่น จะห่างหาย ไม่ได้เห็น

ไหนใครว่า คนรุ่นใหม่ เชิดไม่เป็น....เท่าที่เห็น หุ่นการเมือง เฟื่องฟูเกิน


...๒. กลับคำ...

๐ คำพูดเคยเอ่ยเอื้อน....วาจา

จักไม่รับสถาปนา....แต่งตั้ง

อันตำแหน่งเสนา-....บดี ใดอีก

กลับเปลี่ยนใจอีกครั้ง....อย่างนี้อดสู


....๓. หยาบ....

๐ ฟังวาจา สามหาว ราวยุคหิน....ทั้งก้าวร้าว ดูหมิ่น กันซึ่งหน้า

ทั้งหยาบคาย ราวไม่ใช่ ในสภา....อนิจจา ผู้ทรงเกียรติ น่าเกลียดจัง


....๔. เอียง....

๐ อันตราชู เคยมั่นคง และตรงเที่ยง....ดูดูไป ชักเริ่มเหวี่ยง เอียงและไหว

มีใครตั้ง ตาชั่ง ไว้อย่างไร....จึงทำให้ เกิดปม เสียสมดุล

..............บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๕ สิงหา ๕๔......



วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทุกคนก่อ ทุกคนแก้

(ภาพจาก imagesofglobalworming.org)

๑. พวกเรา ทุกคน บนโลกา...บีฑา ก่อกรรม ทำลาย

เป็นผู้ เบียดบัง ทำร้าย...สร้างความ เสียหาย ให้โลก

๒. ดังเรา กลุ้มรุม สุมฟืน...หยิบยื่น ความเศร้า ความโศก

ปฐพี สั่นไหว วิปโยค...เป็นโรค ร้อนไฟ ไหม้ลาม

๓. เพียงใช้ เพียงกิน สิ้นเปลือง...ใช้เครื่อง เปรอปรน ล้นหลาม

กินทิ้ง กินขว้าง มูมมาม...มองข้าม สมดุล พอดี

๔. น้ำมัน ไฟฟ้า ประปา...เสื้อผ้า พลิกแพลง แสงสี

โทรศัพท์ ตู้เย็น ทีวี...เปิดปิด ไม่มี ประมาณ

๕. วัสดุ กระดาษ พลาสติก...น้พริก น้ำจิ้ม น้ำหวาน

น้ำปลา ซอส เกลือ น้ำตาล...ใช้เกิน ปริมาณ จำเป็น

๖. เรื่องเล็ก เรื่องน้อย เหล่านี้...มันมีที่มา เราไม่เห็น

ทุกตอน ทำโลกร้อน ลำเค็ญ...ลำบาก ยากเย็น คือเรา

๗. ทุกคน ร่วมด้วย ช่วยได้...เพียงลด การใช้ การเผา

ปลูกต้นไม้ ป้องกัน บรรเทา....โลกเรา อยู่ได้ ไปนาน ๐ฯฯ

...............

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๔ สิงหา ๕๔

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทเพลง "วงจรความจน"

(บทเพลงต่อไปนี้ประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ร้องเองและฟังเอง ซึ่งการร้องแต่ละครั้งทำนองก็จะเปลี่ยนไป)

๑. หน้านาปีนี้ ต้นปีมีน้ำ...ชุ่มฉ่ำแช่มชื่น คืนวันสดใส

พืชพรรณธัญญา ปูปลาเต็มไป...ทั้งในท้องไร่ ทั้งในท้องนา

๒. ภาพหวังเริ่มวาด ผุดผาดวาวแวว...พร่างพรายพราวแพรว แพร้วเพริศเจิดจ้า

ทุ่งข้าวเป็นทิว ดังทองทาบทา...โซ่ตรวนเงินตรา คงราหลุดไป

๓. โอ้ฝน..ฝนจ๋า มามากไปแล้ว...รวงทองรวงแก้ว จมน้ำไหวไหว

ความหวังพังภินท์ โบยบินทันใด...น้ำตารินไหล ในใจมืดมน

๔. เป็นอยู่อย่างนี้ หลายปีนานมา...ชีวิตชีวา ฝากฟ้าฝากฝน

ความหิวรันทด ความอดความจน...มันเวียนมันวน ไม่พ้นวงจร

๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๓ สิงหา ๕๔

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นักศึก

(สภาพรถประจำทางคันหนึ่งภายหลังจากเกิดเหตุนักศึกษาสองสถาบันซึ่งเป็นคู่อริยกพวกขึ้นตีกัน

จนบาดเจ็บไปจำนวนมาก และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนทั่วไป ..มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ)

๑. พวกเธอเป็น "นักศึก" ฤา "ศึกษา"...ดูเก่งกล้าท้าทายทำหุนหัน

เห็นพวกเธอราวีทุกวี่วัน...เพียงแต่ต่างสถาบันเป็นฟันแทง

๒. เธออ้างว่าเพื่อศักดิ์ศรีของพี่น้อง...เพื่อรักษาความปรองดองใช่กำแหง

ใครพวกไหนรุกล้ำต้องสำแดง...ทำรุนแรงให้เห็น"ใครเป็นใคร"

๓. นักศึกเอย เก็บความกล้าไว้ท้าสู้...พวกศัตรูหม่อมิตรคิดผลักไส

ผู้รุกรานแผ่นดินถิ่นของไทย...เก็บความแกร่งพวกเจ้าไว้ใช้ต้านทาน

๔. ถ้าคิดว่าเพื่อรักษาสถาบัน...ให้คิดกันหันมารักสมัครสมาน

"ประเทศไทย" และ "คนไทย"ทั่วสาธารณ์...เป็นสถาบันอันหนึ่งเดียวกับพวกเธอ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๘ สิงหา ๕๔

ให้ทำอย่างที่เคย

๑. พวกลูกหลานที่เลี้ยงดูพวกผู้เฒ่า...อย่ารบเร้าเปลี่ยนวิถีชีวีท่าน

ขอให้เป็นขอให้ทำตามต้องการ...เคยทำงาน อยากทำไรให้ท่านทำ

๒. เคยทำไร่ทำนาจนชาชิน...เคยหากินเข้าป่าพงหรือลงน้ำ

เคยเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ประจำ...อย่าห้ามปรามให้ท่านทำอย่างที่เคย

๓. เคยตีกอล์ฟเต้นรำ ทำกับข้าว...เคยตื่นเช้ากวาดบ้านไม่อยู่เฉย

เคยซักผ้าล้างชามอย่าห้ามเลย...ท่านได้ทำสิ่งคุ้นเคย คงสุขใจ

๔. ถ้ากะเกณฑ์ ห้ามทำจะนำทุกข์...ถ้าปั่นปลุกเปลี่ยนแปรแก้วิสัย

ความเป็นสุขตามปกติจะหายไป...อายุขัยของท่านจะสั้นลง

๕. ปล่อยให้เป็นตามที่ท่านอยากเป็น...อย่าเคี่ยวเข็ญเดี๋ยวชีวิตเกิดพิษสง

สารความสุขของท่านถูกบั่นลง...เดี๋ยวก็คงส่งนอนไข้ "ไอ.ซี.ยู."๐ฯฯ


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๔ สิงหา ๕๔

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จมในจน

๑. ชาวนา ตั้งตารอ...ไหว้วอนขอ น้ำหล่อเลี้ยง

ยินฝน หล่นมาเพียง...ได้ยินเสียง เทพประทาน

๒. ต้นข้าว งามพราวพร่าง...แผ่กอกว้าง กางประสาน

รวชู ดูตระการ...อีกไม่นาน ละลานตา

๓. อนิจจา น้ำมามาก...หลั่งไหลหลาก ลงท่วมบ่า

รวงทอง ที่รอท่า...เป็นน้ำตา ที่ตรอมตรม

๔. ความหวัง ที่เคยวาด...กลับเป็นทาส ระทมขม

คนนา ร้องระงม...มองข้าวจม จนลับตา

(คนนา บ้าระบม...จำต้องจม ในความจน)

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๑ สิงหา ๕๔



วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โซมาเลีย ยังรอ

๑. เศรษฐี ผู้ดี มีเงิน....เพลิดเพลิน ประชัน ขันแข่ง

ประมูล เพชรทอง ของแพง....ยื้อแย่ง ของชอบ ครอบครอง

๒. ราคา นับร้อย พันล้าน....หน้าบาน ได้เป็นเจ้าของ

ใช้เงิน มากมาย ก่ายกอง....สนอง ตัณหา กอบโกย

๓. ขณะที่ มีคน จนยาก....อดอยาก ตัวปลิว หิวโหย

ไส้แห้ง แสนโหด โอดโอย....สังขาร ร่วงโรย รอตาย

๔. โอ้หนอ มนุษย์ ร่วมภพ....ส่วนหนึ่ง ดังศพ ใจหาย

อีกส่วน ดังเทพ แปลงกาย...ต่างกัน มากมาย นะคน

๕. สวมเพชร ประกาย ฉายแสง....สำแดง น้ำใจ สักหน

เมตตา แบ่งปัน คนจน...บรรเทา ความทุรน คนโซ...โซมาเลีย

...............

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๔ สิงหา ๕๔

ปรัศนีในผืนป่า

(ยังอาลัยฝูงนกกล้าแห่งแก่งกระจาน)

๐ เจ้าบินวน บนป่าพนาเวศ

เพื่อพิทักษ์ขอบเขต พนาสัณฑ์

เพื่อปกปัก รักษา พนาวัน

เพื่อคุ้มครอง ป้องกัน พนันดร

๐ เป็นด้วยฟ้า อากาศ เกิดวิปริต

ฤาบินผิด พิกัด วิบัติหลอน

ฤาวิกฤติ แกล้งวิกล บนทางจร

จึงล้าอ่อน หมุนคว้าง ลงกลางไพร

๐ มีใครยิง หรือเปล่า เจ้านกน้อย

ปีกจึงห้อย แรงสิ้น บินไม่ไหว

ฤาว่าเกิด อาเพศ ด้วยเหตุใด

รุกขเทพ โปรดจงไข คำตอบที ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓ สิงหา ๕๔

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทวงคืนผืนป่า

๑. ขอชมเชย ปฏิบัติการ อันหาญกล้า

เพื่อทวงคืน ผืนป่า อันไพศาล

ที่ถูกคน ยึดครอง ตามต้องการ

ทั้งรุกราน ทำลาย ทรัพยากร

๒. หากปล่อยปละ ละเลย เฉยต่อไป

คงวอดวาย บรรลัย ไม่หยุดหย่อน

พวกตะกละ รุมกินป่า ไม่อาทร

ผืนดินไทย จักร้าวร้อน ดังไฟลน

๓. ขอให้ทำ อย่างเด็ดขาด ประกาศกร้าว

มันถึงคราว เอาคืน ทุกแห่งหน

เป็นความหวัง เป็นศรัทธา ประชาชน

รอได้ยล ภาพผืนป่า กลับมาคืน

๔. การผ่าตัด ย่อมเจ็บ จนเย็บแผล

อย่ายอมแพ้ แม้คนพาล ต้านขัดขืน

ดำเนินการ อย่างมั่นใจ ในจุดยืน

ต้องทวงคืน ผืนป่า อย่าเกรงกลัว ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒ สิงหา ๕๔