วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แด่...ผู้หญิง



(วันที่ ๑ สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย ใช้ดอกกล้วยไม้แคทลียา "ควีนสิริกิติ์ " เป็นสัญลักษณ์ ส่วนวันสตรีสากล

องค์การสหประชาชาติกำหนดเอาวันที่ ๘ มีนาคม )

๑. พวกผู้ชาย ทุกคน บนโลกนี้

ต่างก็มีพัฒนาการ ผ่านหลายขั้น

ตั้งแต่แรกสนธิ ที่ในครรภ์

เจริญวัน เจริญคืน เจริญวัย

๒. จากสายเลือด สายใจ ใยชีวิต

หญิงคนหนึ่ง คอยอุทิศ อิทธิให้

คอยฟูมฟัก รักยิ่ง อย่างจริงใจ

จนถึงวัน ถึงวัย ได้คลอดมา

๓. เปล่งเสียงร้อง เท่านั้น ที่ทำได้

แล้วนอกนั้น เป็นใคร คอยห่วงหา

ถ้ามิใช่ หญิงซื่อ ชื่อมารดา

จักเติบกล้า มาเป็นชาย ได้อย่างไร

๔. หญิงเพศแม่ ทุกชาย พึงศรัทธา

ให้ความรัก เมตตา สม่ำเสมอ

ขอให้เกียรติ ให้สิทธิ์ เสรีเธอ

อย่าได้เผลอ ทำร้าย ทั้งกายใจ ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑ สิงหา ๕๔

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เวลาที่รอ

(ภาพจาก heidiandluca.com)

๐ ได้เวลา ดีดี ที่รอคอย

เจ้านกน้อย เอียงคอ รอไยเล่า

รีบเข้ามา บรรเลง บทเพลงเก่า

ที่พวกเรา เคยฟัง มาตั้งนาน

๐ ช่วงเวลา อันสงบ พบได้ยาก

รอนานมาก กว่าว่างเว้น เป็นแก่นสาร

ปราศจาก เสียงกึกก้อง ไม่ต้องการ

ซึ่งระราน รบกวน ชวนระอา

๐ ถึงเวลา หายใจ ได้เต็มปอด

ถึงเวลา ได้โอบกอด ยอดพฤกษา

ถึงเวลา สดับพิณ แห่งดินฟ้า

ถึงเวลา ได้จด บทกวี ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๑ กรกฎา ๕๔

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กิน กิน กิน

๑. คนบางกลุ่ม มีค่านิยม น่าสมเพช
เกิดกิเลส กับอาหาร ไม่รู้สิ้น

เขาบอกว่า ถ้าอยากกิน ต้องกิน...กิน

ยามแดดิ้น ไม่ได้กิน ตามต้องการ

๒. ครั้นนานเข้า กลุ่มนี้ ในที่สุด

ไม่อาจหยุด พฤติกรรม อันฟุ้งซ่าน

มีความอยาก ความหิว เกินประมาณ

ไม่ช้านาน สะสมภัย ในร่างกาย

๓. ตอนซื้อกิน ต้องจ่าย ใช้เงินมาก

ยิ่งลำบาก ตอนอ้วน มวลขยาย

ต้องเข้าคอร์ส รีดไขมัน อันตราย

ใช้เงินอีก มากมาย คลายส่วนเกิน

๔. ถ้าหากกิน พอดี ที่จำเป็น

ไม่ลำเค็ญ ร่างสันทัด ไม่ขัดเขิน

สบายตัว สบายทรัพย์ เสียเหลือเกิน

ใครที่เพลิน ปากท้อง ลองคิดดู


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๐ กรกฎา ๕๔


วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ภาษาของเรา

๐ ภูมิใจเถิดที่ใช้....ภาษา

เป็นสิ่งแสดงอัตตา....ค่าล้น

จารึกหลักศิลา....แรกเริ่ม

กำเนิดอักษรแต่ต้น....ไทยต้องเตือนใจ

๐ คำไทยไพเราะซึ้ง....สำเนียง

สูงต่ำระดับเสียง....สอดคล้อง

จำนรรจาเสนาะเพียง....พิณพาทย์

เสริมส่งแลปกป้อง....ไม่ให้เสื่อมสลาย

๐ โคลงฉันท์เพลงร่ายด้น....กาพย์กลอน

แบบบทโบราณสอน....สื่อไว้

สมบัติพึงสังวร....วรรณศัพท์

จรรโลงสืบต่อให้....คู่บ้านเมืองนิรันดร์ ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔ /วันภาษาไทยแห่งชาติ

(เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๐๕ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมอภิปรายเรื่อง "ปัญหาการใช้คำไทย"ที่ห้องประชุมคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)



วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ปัญหาของปัญหา

๑. การกินอยู่ มีปัญหา สารพัด...ทั้งการจัด ปัจจัย ให้เหมาะสม

ทั้งการใช้ วิธีการ ผ่านหลายปม...เพื่อสนอง รสนิยม ตามต้องการ

๒. เพียรสรรหา ของกิน ดิ้นรนสู้...เพื่อชีวิต ความเป็นอยู่ ดูวิ่งพล่าน

หาก็ยาก ค่าก็แพง แย่งลนลาน...เหนื่อยอยู่นาน จึงมีกิน มีใช้กัน

๓. ครั้นกินมาก ยากท้อง ต้องหาหมอ...เพื่อไปขอ ยาพิชิต สิ่งปิดกั้น

คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ พวกไขมัน...ที่อุดตัน รูท่อ พอรอดตาย

๔. ส่วนการอยู่ ก็ดูเพลิน เกินจำเป็น...ทิ้งกากเดน เหม็นเน่า น่าเบื่อหน่าย

ใช้สิ่งของ แบบชุ่ยชุ่ย สุรุ่ยสุร่าย...จนขยะ จะขยาย ไปท่วมคน

๕. ถ้าคนเรา ใช้น้อย และกินน้อย...ไม่ต้องคอย แก้ไข ที่ปลายผล

กินพอดี ไม่หนักใจ ไร้กังวล...ใช้พอตน ห่างปัญหา พาสุขเอย ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๘ กรกฎา ๕๔

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แม้ต่างยุคกัน

(ภาพจาก dinodirect.cm)

๑. ภาพวัยเด็ก ของฉัน นั้นสดใส...ง่วนอยู่ใน ท้องทุ่ง อย่างมุ่งมั่น

ใฝ่สอดรู้ เรื่องราว สารพัน...แต่ละวัน สาละวน บนท้องนา

๒. ในยามเล่น ไม่ห่างไกล หนอง นา ห้วย...ม้าก้านกล้วย ควบส่ง ข้ามพงหญ้า

ขี่หลังควาย เดินเล่น เย็นอุรา...แล้วลงท่า ตีกลองน้ำ ในลำชี

๓. ปั้นดินเหนียว เทียวเปลี่ยน แปลงรูปบ่อย...ตัดต้นข่อย ทำลูกข่าง อย่างพวกพี่

ในยามบ่าย เตรียมเหยื่อไว้ ให้พอดี...ลงเบ็ดไว้ เพื่อพรุ่งนี้ มีปลากิน

๔. ในรุ่นลูก การละเล่น เห็นแตกต่าง...ตุ๊กตา ของเล่นสร้าง อย่างมีศิลป์

การ์ตูนดัง หนังสือสวย เพลงรวยริน...มีศิลปิน ในดวงใจตั้งหลายคน

๕. ในรุ่นหลาน ทันสมัย เครื่องไฟฟ้า...มีมือถือ พกพา ไปทุกหน

คอมพิวเตอร์ ไว้เล่นเกม ดูชอบกล...แต่ละคน พูดภาษา ที่น่าห่วง

.........................

๖. ถึงแตกต่าง อย่างไร ในพื้นฐาน...แต่ความรัก ต่อเมืองบ้าน นั้นทุกช่วง

คงมากพอ สืบสาน งานทั้งปวง...ให้โชติช่วง ก้าวหน้า สถาพร ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๖ กรกฎา ๕๔

หยุดไว้ก่อน

๑. หยุดไว้ก่อน ความขัดใจ คนในชาติ

ยั้งไว้ก่อน ความอาฆาต และมาดร้าย

เก็บไว้ก่อน แผนซับซ้อน บ่อนทำลาย

เพลาไว้ก่อน ความมุ่งหมาย ท้าทายชน

๒. ชาติของเรา บอบช้ำหนัก ขนาดนี้

อย่าให้มี ทุกข์โถม โหมอีกหน

ที่ผ่านมา ชาติย่ำแย่ แทบยับย่น

ประชาชน ไม่เยียวยา หาพึ่งใคร

๓. ความขัดแย้ง ทางความคิด พ่นพิษหนัก

ชาติเสียศักดิ์ เสื่อมศรี กว่าทีไหน

ธรรมชาติแปรผัน มหันตภัย

จนสังคม ป่วยไข้ ไปเป็นปี

๔. เศรษฐกิจ นิ่งแน่ แพ้คู่แข่ง

ความขัดแย้ง เรื่องดินแดน แสนบัดสี

ความสูญเสีย บุคลากร ที่เก่งดี

ตรองดูที หยุดทะเลาะ ได้หรือยัง

๕. ได้โปรดเถิด หันหน้า หากันเถิด

รักกันเถิด ช่วยกันเถิด เกิดมนต์ขลัง

ร่วมมือกัน ฟื้นฟูไทย ให้จริงจัง

จะทะเลาะ ใหม่อีกครั้ง ค่อยว่ากัน ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๔ กรกฎา ๕๔

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผู้พลีชีพเพื่อผืนป่า

๐ ขอสดุดี ดวงวิญญาณ ทหารกล้า ทั้งช่างภาพ ทีวีห้า ที่ห้าวหาญ


ปฏิบัติงาน ในผืนป่า แก่งกระจาน โดนเหตุการณ์ ไม่คาดฝัน อันมืดดำ


๐ โดยเริ่มต้น ภารกิจหลัก พิทักษ์ป่า แนวชายแดน ไทย/พม่า ที่ค่าล้ำ


เพื่อรักษา ทรัพยากร ก่อนถูกทำ ให้ย่อยยับ โดยอธรรม ที่รุกราน


๐ ช่วง๙วัน คนไทย หัวใจหล่น เราสูญเสีย ๑๗ คน ผู้กล้าหาญ


เฮลิคอปเตอร์ ๓ ลำ ต้องแหลกลาญ เป็นเหตุการณ์ ชวนให้หวั่น และพรั่นพรึง


๐ ขอให้ดวงวิญญาณ ท่านผู้กล้า สถิตใกล้ เทพเทวาหาที่พึ่ง


อยู่ในสรวงสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ คนอยู่หลัง ยังคำนึง ถึงความดี


๐ พวกเราขอ สืบสาน งานของชาติ พิทักษ์ป่า อย่างสามารถ ให้เต็มที่


ขอต่อสู้ กลุ่มคน ปล้นพงพี เอาชีพพลี เพื่อรักษา ป่าไม้ไทย


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๔ กรกฎา ๕๔







วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หมู่บ้านนักเลง

๐ ยังมี หมู่บ้านหนึ่ง เป็นบ้านซึ่ง สุขสงบ

ขัดแย้ง ไม่เคยพบ ความบัดซบ ไม่เคยเห็น

๐ อยู่มา เวลานี้ เกิดกาลี ยุคลำเค็ญ

ชุมชน อันร่มเย็น ดังโดนเวร กรรมเป็นไป

๐ นักเลง เบ่งคับบ้าน คอยระราน พล่านกันใหญ่

นายทุน ผู้เกรียงไกร ซ่องสุมไว้ ใช้คุ้มกัน

๐ ชาวบ้าน ทุกย่านกลัว ต่างซุกหัว ไม่มองหัน

บ้างยอม พร้อมใจกัน เข้าจำนรรจ์ เพื่อจำนน

๐ พวกใดไปลบหลู่ โดนข่มขู่ เข้าหลายหน

หมู่บ้าน อลวน ประชาชน อลเวง

๐ ขอทำนายทายทัก ไม่นานนัก นักเลงเก่ง

จักฆ่าฟัน พวกกันเอง แล้วข่มเหง ผู้เป็นนาย ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๓ กรกฎา ๕๔



วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เป็นอย่างนี้ อยู่ร่ำไป

๐ ในครอบครัว ชุมชน ทุกสถาน
ในวงการ กลุ่มคน ทุกชนชั้น
ในองค์กร ศาสนา ทุกสถาบัน
ในชาติพันธุ์ ในสังคม ที่มีคน
๐ มักจะมี ฝ่ายหนึ่ง ซึ่งสร้างสรรค์
อีกฝ่ายนั้น เป็นมุมกลับ ที่สับสน
ฝ่ายหนึ่งมุ่ง ทำดี ด้วยอดทน
อีกฝ่ายสร้าง รอยหมองหม่น ตลอดมา
๐ ดังแสงทอง ทาบทา ยามสายัณห์
ม่านมืดดำ มักรูดพลัน ปิดกั้นฟ้า
รอ..ต้องรอ แสงอรุณ รุ่งทิวา
รอตะวัน ผู้เก่งกล้า กลับมาเรือง ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๒ กรกฎา ๕๔

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อนุโมทนา สาธุ

๐ เห็นชวนกัน งดเหล้า เข้าพรรษา

แล้วยาบ้า ยาอี อยู่ที่ไหน

ยังเสพติด เมามัว มั่วต่อไป

แล้วทำไม ไม่ชวนกัน เลิกมันเลย

๐ พวกหวยหุ้น เลขเบอร์ ยังเพ้อฝัน

การพนัน หลายประเด็น เล่นเปิดเผย

เมื่อไรเลิก ลุ่มหลง ได้ลงเอย

เป็นเมืองธรรม น่าชมเชย อย่างเคยมา

๐ การงดเหล้า เข้าพรรษา เวลาสั้น

อยากเหนือชั้น ต้องงดกัน ออกพรรษา

อยากดีเยี่ยม ควรปลอด ตลอดชีวา

จักศรัทธา สาธุ อนุโมทนา ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๘ กรกฎา ๕๔

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ส้วมกินได้

๑. ในยุคแรก เริ่มประกวด อวดหม่บ้าน กระตุ้นการ พัฒนา ถิ่นอาศัย

ให้ปรับปรุง ชุมชน จนวิไล พร้อมกันไป กับพัฒนา อาชีพคน

๒. รวมไปถึง การศึกษา อนามัย ความร่วมมือ ร่วมใจ ให้ได้ผล

จึงประกวด ตั้งแต่ ระดับตำบล เลื่อนไปจน ระดับ ประเทศเลย

๓. เห็นชาวบ้าน เร่งทำรั้ว กันยกใหญ่ ติดป้ายชื่อ เรียงไป อย่างเปิดเผย

ปลูกไม้ดอก ไม้ใบ ไว้ชมเชย พวกพืชผัก ก็งอกเงย เต็มครัวเรือน

๔. มีทีเด็ด อย่างไร เตรียมไว้แน่น เกด็บคะแนน เอาไว้ ได้เชือดเฉือน

หวังพิชิต รางวัลหมาย คล้ายดาวเดือน ไม่แชเชือน ตามแนะนำ กรรมการ

๕. ลุงคนหนึ่ง บอกว่ามี "ส้วมกินได้" เขาพาไป ดูให้เห็น เป็นแก่นสาร

บวบ น้ำเต้า คลุมหลังคา ของอาคาร เป็นสถาน "สุขา" ระย้าไป

๖. เขาบอกว่า ทีผักพืช ยืดเต็มรั้ว ยังพูดมั่ว บอกว่า "รั้วกินได้"

พอมันคลุม ที่ส้วมบ้าง เป็นอย่างไร สมควรไหม เรียกรวม "ส้วมกินได้"


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๖ กรกฎา ๕๔

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่น่าเสียดายกว่า

๑. เสียดาย รายการดี ทางทีวี ที่ควรดู

ดึกดื่น ชวนชื่นชู เพื่อฟื้นฟู ภูมิปัญญา

๒. อีกโชว์ อลังการ ที่ส่งผ่าน ข้ามม่านฟ้า

ทุกมุม ทั่วโลกา ป้อนเข้ามา ล้วนน่าชม

๓. ไยง่วง ช่วงจบข่าว หาวแล้วหาว ไม่เหมาะสม

เสียดาย แหล่งอุดม ความรู้จม อยู่ในจอ

..................

๔. แต่น่า เสียดายกว่า ถ้าหากว่า ถ่างตาต่อ

สิ่งดี ที่เฝ้ารอ ให้ถักทอ ทั้งราตรี

๕. เหนื่อยหนัก มานักแล้ว ฝันเพริดแพร้ว พริ้วพราวศรี

ล่องลอย อย่างเสรี ไปยังที่ ชวนผ่อนคลาย

๖. บริหาร ด้านสมดุล ซึมซับคุณ ขับโทษหาย

เกียร์ว่าง ของร่างกาย ให้พิษคาย คืนพลัง

๗. หยุดไว้ ทั้งความคิด อีกใจจิต อารมณ์หลัง

เติมไฟ ในภวังค์ ตื่นอีกครั้ง เต็มลมปราณ ๐ฯฯ


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๕ กรกฎา ๕๔

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อย่าไปเลย...ต่างดาว

๐ ทำโลกเละเทะแล้ว เตรียมหนี

เปลือกโลกโดนย่ำยี ปล่อยร้าง

โลกบริสุทธิ์เกิดราคี โครก่อ

ไยไม่คิดการสร้าง ซ่อมให้หายเสีย

๐ เสาะแสวงถิ่นใหม่ไว้ อาศัย

ดาวเคราะห์เหมาะดวงใด จับจ้อง

อ่าวอวกาศไหน จองจับ

สำรวจสำเร็จป้อง ปักป้ายหมายปอง

๐ ลูกหลานรุ่นหลังลุ้น ลอยทิพย์

สละโลกล่องลอยลิบ เลื่อนฟ้า

หนีโลกมุ่งกะพริบ ดาวใหม่

ยำโลกจนอ่อนล้า หลบลี้ไปไหน

๐ เลิกคิดและเลิกล้ม ความหวัง

ดีชั่วเราก็ยัง อยู่ได้

เลิกฝันเลิกปลูกฝัง โลกอื่น

ทนอยู่โลกเดิมให้ หันหน้าปรับปรุง ๐ฯฯ


บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๔ กรกฎา ๕๔

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คอยฝนจนใจเหี่ยว

(ภาพจาก oknation.net)
๑. เห็นต้นหญ้า ยอดไม้ และใบข้าว ที่เหี่ยวเฉา พับห้อย คอยน้ำฝน
ไม่แตกต่าง อย่างใด กับใจคน ที่หมองหม่น หมดหวัง นั่งเหม่อลอย
๒. หลายเพลา ล่วงเลย ไม่เคยเห็น เพียงกระเซ็น พรมพร่าง บ้างนิดหน่อย
แล้วลับหาย ห่างไป ปล่อยให้คอย เครียดไม่น้อย ที่หน้านี้ ไม่มีน้ำ
๓. ต้นฤดู มีมาพอ ล่อต้นข้าว ให้งอกพราว เขียวพรู ดูชื่นฉ่ำ
จุดประกาย ความหวัง ยังจดจำ งดงามล้ำ พริ้มลม แลประทัง
๔. แต่แล้วก็ ทิ้งช่วง ไม่ห่วงทุ่ง ทิ้งป้าลุง คนนา มาสิ้นหวัง
ดินระแหง แห้งโหย โบยภวังค์ อ่อนกำลัง แรงใจ ไม่ชื่นกัน
๕. โอ้ชีวิต ฝากฝน บนฟากฟ้า วาสนา น้อยไป หรือไรนั่น
แต่ละปี จับเจ่า เฝ้ารอวัน ได้สุขสันต์ สดใส ในท้องนา
๖. ได้โปรดเถิด ฝนฟ้า มาแลเหลียว คนใจเหี่ยว ข้าวใบเฉา เฝ้าคอยหา
ขอสายฝน หวนเร่ เทลงมา ให้ชุ่มฉ่ำ ชุบชีวา นากับคน
๐ฯฯ
บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๐ กรกฎา ๕๔
(เขียนบทกลอนนี้ไว้เมื่อวันที่ ๙ กรกฎษ ๕๔ พอตกกลางคืนวันนั้นฝกตกลงมาให้เลย)

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คุณค่าที่ควรหวงแหน

๑. ดิน-แดด-อากาศ-น้ำ นั่นหรือ
คุณค่าอันจริงคือ ขาดไม่ได้
มนุษย์มุ่งใดฤา ในโลก
หากขาดสี่สิ่งไร้ อยู่ได้อย่างใด
๒. สังคมยุคก่อนนี้ ทุกสมัย
มุ่งประสงค์ชิงชัย ชนะแท้
รบรุกเพื่อลุใน อำนาจ
หวังแผ่อิทธิพลแม้ ไพร่ม้วยพลมรณ์
๓. อนาคตสงครามนั้น เปลี่ยนปรับ
เป็นศึกชิงขุมทรัพย์ อากาศ-น้ำ
ดินแดนทำกินกับ แสงแดด
รบพุ่งช่วงชิงย้ำ เพื่อได้ไปครอง
๔. ชาติใดมีภูมิเอื้อ ผลิตอาหาร
ดินอุดมไม่กันดาร ชุ่มชื้น
มากมีมวลสสาร สะสมอยู่
แสงแดดส่งถึงพื้น ค่ำล้ำเพชรทอง
๕. พึงถนอมที่เอาไว้ ทำกิน
พึงสงวนชีวสิน สอดคล้อง
พึงคุ้มครองสุดชีวิน ชีวาตม์
พึงหวงแหนปกป้อง ยิ่งด้วยชีวัน ๐ฯฯ
บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๙ กรกฎา ๕๔

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มีชัยไปพร้อมกัน

๑. การแข่งขัน ตามกฎ กติกา การรักษา มารยาท ในสนาม
การเชื่อฟัง กรรมการ ผู้ติดตาม มันเป็นภาพ อันงดงาม ในสายตา
๒. ความขยัน ทำหน้าที่ ให้ดีสุด มีภาพลักษณ์ อันพิสุทธิ์ เด่นสง่า
การนำทีม ขับเคลื่อน เลื่อนนาวา มันเป็นสิ่ง ที่ตรึงตรา อยู่ในใจ
๓. การเคารพ ประชาชน คนเฝ้าดู การรับรู้ ถูกผิด ติดนิสัย
การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย สำรวมใน กิริยา และท่าที
๔. เมื่อคราวแพ้ ยิ้มรับ กับพ่ายแพ้ ไม่เล่นแง่ เกี่ยงงอน ในศักดิ์ศรี
ไม่เป็นอย่าง ขี้แพ้ แต่ชวนตี พร้อมยินดี และร่วมมือ ผู้มีชัย
๕. ถ้าแบบนี้ การแข่งขัน มันก็แฟร์ เป็นการแพ้ อย่างสร้างสรรค์ และสดใส
ความปรองดอง ได้เริ่มต้น ในทันใด ไม่ว่าใคร ก็ชนะ ไปด้วยกัน ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๕ กรกฎา ๕๔ (หลังการรู้ผลเลือกตั้ง ๓ กรกฎา ๕๔)

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พรมแดน กับ พรหมแดน


๑. คนเรานั้น ดั้นด้น บนทางเดิน บ้างเพลิดเพลิน บ้างทุลัก-ทุเลก้าว

มีสุขทุกข์ ร่วมย่าง ระยะยาว ในบางคราว แทบทรุด หยุดกลางทาง

๒. ทางเดินเรา ถ้าจักเทียบ เลียบพรมแดน มาไกลแสน ยังวกวน ไม่พ้นห่าง

เดินข้ามไป ข้ามมา ตลอดทาง เดินออกบ้าง เข้าบ้าง อยู่อย่างนี้

๓. เส้นพรมแดน ระหว่างขาว ระหว่างดำ ระหว่างกรรม กับเวร เห็นถ้วนถี่

ระหว่างชั่ว ข้ามข้าง ระหว่างดี ระหว่างเศร้า กับยินดี ข้ามจำเจ

๔. ระหว่างถูก กับผิด คิดข้ามบ่อย ระหว่าน้อย กับมาก มักหันเห

ระหว่างเย็น กับร้อน ห่อนลังเล เข้าออกเร่ นอกใน ไม่เว้นวาย

๕. อันพรมแดน ละม้าย คล้ายพรหมขีด ให้ชีวิต ก้าวข้าม ฝั่งขวาซ้าย

ถ้าเมื่อใด ข้ามพรหมแดน อันตราย จากความเป็น สู่ความตาย นั่นปลายทาง ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒ กรกฎา ๕๔

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อย่า

๑. ฟังคำพูด ตอกย้ำ เรื่องอำมาตย์ คล้ายตีวัว กระทบคราด อาจรู้ได้
เจตนา พอมองเห็น เป็นเช่นไร อย่าเล่นบท ศรีธนญชัย ให้คนดู
๒. อย่าคิดล้ม เสาหลัก ที่ปักหมุด เรือนจะทรุด บ้านจะพัง ยั้งไม่อยู่
อันโครงสร้าง ดั้งเดิม เริ่มลบหลู่ แล้วพากัน เดินสู่ ประตูใด
๓. การสร้างบ้าน แปลงเมือง เรื่องซับซ้อน อุทาหรณ์ มีให้เห็น เป็นเงื่อนไข
คติหนึ่ง เหมาะเมืองหนึ่ง พึงพอใจ มันมิใช่ของเวียน เปลี่ยนง่ายดาย
๔. หากคิดเปลี่ยน เพียงทดลอง ตามต้องการ ผลกระเทือน มหาศาล ผ่านเป็นสาย
ผลสะท้อน ย้อนเหน็บ เจ็บมากมาย ความกระหาย ลามเผาผลาญ ปานอัคคี
๕. อย่าริเอา เสรีภาพ ของต่างบ้าน มาใช้เป็น มาตรฐาน ของบ้านนี้
อันแบบแผน ขัดกัน มันไม่ดี หยุดทันที อหังการ์ อย่าคิดเลย ๐ฯฯ

บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑ กรกฎา ๕๔