วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แด่แม่ชี

แม่น้ำชี
"ลำพะชี" คือนามเดิมของแม่
กำเนิดจากภูผาสูง
เดินทางซอกซอน
แทรกซึม ลึกซึ้ง
เข้าสู่กระดูกสันหลัง
ต่อเนื่อง
เนิ่นนาน
วานช่วยปกป้อง
แม่ของเรา
......
ศักดิ์เรือง วลี/ ๑ สิงหา ๕๒

จงจีรัง

๐ อยากเป็นดาวเป็นดิน เป็นหิน-ไม้
ขอจงให้เป็นไปอย่างใจถวิล
ตั้งแต่ต้นมาอย่างไรทำใจชิน
ไม่หลงถิ่นตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย
๐ อย่าเป็นโน่นเป็นนั่นแล้วเป็นนี่
เช้าอย่างนี้ แล้วอย่างนั้นครั้นพอสาย
ธาตุที่แท้แปรไปเป็นธาตุกลาย
สูญสลายความเป็นตัวของตัวเอง

ศักดิ์เรือง วลี /๑ สิงหา ๕๒

เติมและตัด

๐ จงเติมแต้มสีสันให้วันว่าง
ให้สล้างให้สลวยด้วยสีสัน
ให้สดใสสดชื่นทั้งคืนวัน
เติมความฝัน จินตนาแลอารมณ์
๐ ถึงมันคลั่งมันคลุ้มอยู่ลุ่มลึก
จงชำระชะล้างความขื่นขม
ด้วยน้ำใสในเบ้าตาอย่ามัวตรม
ความระทมควรสลายมลายพลัน

ศักดิ์เรือง วลี /๑ สิงหา ๕๒

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คนเดินดิน

๐ จงเติมแต้มต่อใบให้ต้นไม้
พร้อมกันนั้นก็เติมไฟที่ในหวัง
เติมรักลงกลางใจใส่พลัง
เติมมนต์ขลังสิ่งรอบข้างอย่างเคยชิน
๐ ถ้าวันใดหมดไฟให้ใส่เชื้อ
ความช่วยเหลืออยู่รอบข้างไม่เคยสิ้น
อย่ายโสจงยอมรับน้ำใจริน
คนเดินดินอยู่กับดินกินกับดาว

ศักดิ์เรือง วลี / ๓๑ กรกฎา ๕๒

จงหวัง

๐ จักคิดหวังสิ่งใดก็จงหวัง
อย่าหยุดยั้งความคิดตามสิทธิ์หวัง
แม้จริงบ้างฝันบ้างวางระวัง
เพราะว่าหวังก็คือหวังยังไม่วาย(ชีวา)

ศักดิ์เรือง วลี /๓๑ กรกฎา ๕๒

โลกของวัยรุ่น

สีสลับสี
แสงสลับแสง
เสียงสลับเสียง
คำสอนหลายทิศทาง
แม่เหล็กจากหลายขั้ว
......ความนึกคิดสลับสับสน
......ตัวตนมิใช่ตัวตน
อยู่คนเดียวท่ามกลางคนมากมาย

ศักดิ์เรือง วลี / ๓๑ กรกฎา ๕๒

ขุนเขา

ภายในใต้ขุนเขา
ร้อนหนาวสักเท่าใด
ใครเล่าจักล่วงรู้
ด้วยตัวของผาภู
มิอาจเอ่ยให้ใครยิน

ศักดิ์เรือง วลี /๓๑ กรกฎา ๕๒