วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ด้วยแรงใจ

๑.๖๘ วันใต้บาดาล..เหมืองทรมาน ๓๓ คน
รวมถึงคนหลายคน..ที่ทุกข์ทนกระวนกระวาย
๒.ทุกฝ่ายมีความหวัง..ต่างก็ตั้งใจมุ่งหมาย
ให้ทุกคนพ้นความตาย..เดินเรียงรายจากรูดิน
๓.หายใจได้เต็มที่..มีชีวีเต็มชีวิน
ได้ยลและได้ยิน..คนเคยชินในครอบครัว
๔.เห็นดาวเห็นดวงเดือน..ไม่รางเลือนไม่มืดมัว
หายหวั่นหายหวาดกลัว..ได้ยิ้มหวัวมีเสรี
๕.ในเหมืองเหมือนนรก..ดังหล่นตกอเวจี
หนึ่งวันนานเท่าปี..โอ้ชีวีช่างมืดมน
๖.ด้วยแรงแห่งดวงใจ..ที่รับ-ให้ อย่างเหลือล้น
จากคนที่ข้างบน..บวกใจคนที่ข้างใน
๗.แรงใจให้แก่กัน..จึงรังสรรค์ทางสดใส
ฟ้าจึงเปิดทางให้..ทุกคนได้หลุดพ้นกัน
๘.แล้วถึงวันที่รอ..น้ำตาคลอ อย่างสุขสันต์
คนพรากได้พบกัน..สมใจพลันด้วยแรงใจ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๓ ตุลา ๕๓
(บทกวีนี้เขียนขึ้นทันทีที่ได้เห็นภาพการช่วยเหลือคนงานเหมืองทองแดง
ในประเทศชิลี ที่ถล่มตั้งแต่วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ขึ้นมาได้คนแรกเมื่อเวลา
๑๐.๑๒ น.ของวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยใช้แคปซูลฟีนิกซ์ หย่อนลงไปช่วย)

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แสนยานุภาพ

๑.กองทัพ แผ่นดินไทย..ยังยิ่งใหญ่ เกรียงไกรอยู่
พึงคิด พินิจดู..เราพร้อมสู้ อย่างทะนง
๒.ทัพหน้า ที่หนาแน่น..เต็มแว่นแคว้น ศักย์สูงส่ง
ข้าวไทย ยังอาจอง..เชิดชูธง ธวัชชัย
๓.ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง..ข้าวโพดยัง เป็นทัพใหญ่
พืชผัก ผลไม้..หมู เป็ด ไก่ กุ้ง ปู ปลา
๔.น้ำตาล อาหารสำเร็จ..บรรจุเสร็จ แบบก้าวหน้า
สมุนไพร ตำรับยา..พร้อมอาสา เข้าโรมรัน
๕.น้ำมันปาล์ม ยางพารา..อีกเสื้อผ้า พวกแพรพรรณ
เครื่องประดับ ที่รังสรรค์..ผนึกกัน อย่างเจาะจง
๖.ศิลปะ วัฒนธรรม..หัตถกรรม แห่งเผ่าพงศ์
ธรรมชาติ ที่ธำรง..ยังยืนยง เป็นสายใย
๗.ทัพหลัก ควรปกป้อง..อย่าเปิดช่อง ให้ทัพไหน
เข้ามา แทรกภายใน..เราคนไทย ช่วยดูแล
๘.เสริมพล ให้พร้อมสรรพ..บำรุงทัพ เป็นไทยแท้
ชาติเรา จักไม่แพ้..ไม่อ่อนแอ ไม่อาวรณ์
๙.สร้างทรัพย์แสนยานุภาพ..เป็นคมดาบ ด้านทรัพยากร
มั่งคั่ง นิรันดร..ไม่สั่นคลอน ความมั่นคง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๑ ตุลา ๕๓

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เลือกข้าง

๑.สองกลุ่มคนดิ้นรนคนละทาง..ฝ่ายหนึ่งสร้างอีกฝ่ายซ้ำทำลายสิ้น
มีบางกลุ่มเผาป่าไม้ทำลายดิน..หลายชีวินปลูกป่าขึ้นมาแทน
๒.คนบางกลุ่มปล่อยพิษสงลงแหล่งน้ำ..ฝ่ายตรงข้ามทักท้วงอย่างหวงแหน
มีบางพวกรุกภูเขาให้เปล่าแปน..ทั่วแว่นแคว้นยังมีคนคอยฟื้นฟู
๓.บางกลุ่มคนกระหน่ำทำโลกร้อน..มีคนผ่อนร้อนคลายหายอดสู
มีบางพวกคดโกงกันน่าดู..ยังมีผู้สัตย์ซื่อสุจริตชน
๔.คนบางกลุ่มมั่วสุมยาเสพติด..มีคนคิดต่อต้านด้วยเหตุผล
มีบางพวกเกเรทรชน..ยังมีคนสรรค์สร้างอย่างสัมมา
๕.คนบางกลุ่มสนับสนุนความวุ่นวาย..กลุ่มมุ่งหมายสันติมีมากกว่า
มีบางพวกชอบรุนแรงกำแหงท้า..กลุ่มศรัทธาสันติธรรมยังพอมี
๖.โปรดจงคิดตรึกตรองคนสองฝ่าย..พวกพระเอกกับผู้ร้ายสองค่ายนี้
เลือกข้างใดคิดดูเสียให้ดี..อย่ารอรีร่วมสร้างพลังชน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๐ ตุลา ๕๓


เครื่องมือ

๐ ปัจจุบันคนทอดทิ้ง..ศีลธรรม
ป่วยการยกบาปกรรม..มาอ้าง
สวรรค์นรกเป็นเรื่องขำ..เสียนี่
คำสอนกรอกหูข้าง..ออกข้างไม่ขลัง
๐ สถานการณ์อย่างนี้..แนะนำ
บันทึกพฤติกรรม..โดยกล้อง
ควบคุมจริยธรรม..แนวใหม่
แทนศีลธรรมปกป้อง..แก่ผู้สาธุชน
ศักดิ์เรือง วลี /๑๐ ตุลา ๕๓

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พักตรากฤติบรรณ

๑.เป็นดัง สังคม พิเศษ..ใช้ญาณ วิเศษ สื่อสาร

กว้างไกล ไปสุด ประมาณ..ทุกย่าน ทุกถิ่น ถึงกัน

๒.ไม่เลือก เชื้อชาติ ภาษา..เข้ามา คับคั่ง สังสันทน์

ทุกเพศ ทุกวัย ไม่กั้น..เพิ่มกัน เป็นมิตร มากมาย

๓.เผื่อแผ่ ความคิด ความอ่าน..ประสบการณ์ มีมาก หลากหลาย

ได้เจอ รู้จัก ทักทาย..ภาพถ่าย เสียงเพลง แบ่งปัน

๔.แลกเปลี่ยน ข่าวสาร สาระ..ธรรมะ ปรัชญา เสกสรร

ไถ่ถาม ทุกข์สุข สัมพันธ์..ขำขัน สะกิด ติดดาว

๕.สนุกสนาน ด้านภาษา..ทั้งวัยชรา หนุ่มสาว

รับรู้ หลากรส เรื่องราว..แพรวพราว เทคโนโลยี

๖.วันวัน รีบหันใบหน้า..เข้าหา หนังสือ แสงสี

จดจ่อ หน้าจอ ดูที..ว่ามี ข้อความ เพื่อนใด

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๙ ตุลา ๕๓



วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทุ่งรอทวง

๑.ทุ่งเอ๋ยทุ่งรอทวง..เห็นรวงชูคอไหวไหว
ยินเสียงเรียกช่วยไวไว..เห็นใบโผล่พ้นเพียงปลาย
๒.รวงทองนับแสนนับล้าน..น้ำผ่านพลันล่มจมหาย
หัวอกคนทำแทบตาย..วอดวายวิโยคอกตรม
๓.ความหวังพังลงตรงหน้า..ใจล้าสุดฝืนขื่นขม
ต้นทุนกำไรระงม..กอดคอกันจมน้ำตาย
๔.น้ำตาไม่เหลือจะไหล..น้ำใจอยู่ไหนใจหาย
น้ำป่าหลากมาท้าทาย..แทบล้มละลายร้ายเกิน
๕.เห็นภาพเลือนลางกลางน้ำ..เจ้าหนี้ยืนค้ำทำเขิน
แต่ปากร้องมาทวงเงิน..ยับเยินอย่างนี้ยังทวง
๖.ทรุดตัวลงตรงโคลนตม..ดังคมมีดปักหนักหน่วง
ทุ่งเอ๋ย โอ้ทุ่งรอทวง..โบกมือลารวงหมดแรง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด/ ๘ ตุลา ๕๓

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไม่เปิดเผย เลยเปิดโปง

(ภาพใบบังบัว)
๑.คนทุกคนในสังคมสมควรรู้..ควรได้ดูของจริงทุกสิ่งสรรค์
ที่อุบัติที่เป็นไปในทุกวัน..ได้ตามทันได้เรียนรู้คู่กันไป
๒.ในระบบของสังคมควรเปิดสู้..ไม่ปิดหูปิดตาให้บอดใบ้
ควรเปิดเผยเรื่องจริงทุกสิ่งไซร้..ไม่ว่าใครทำอะไรที่ไหนกัน
๓.ไม่ว่าร้ายไม่ว่าดีเกิดที่ใด..ไม่เข้าใครออกใครไม่เหหัน
ถ้ามันเป็นความจริงทุกสิ่งนั้น..ไม่ปิดกั้นการรับรู้ของผู้คน
๔.ถ้าเช่นนี้ก็ไม่มีที่ระแวง..ความขัดแย้งลดไปไม่สับสน
เมื่อฟ้าใสใครต่อใครได้ยินยล..ทะลุพ้นมิติใหม่ได้มุมมอง
๕.ถ้าเมื่อใดปิดบังความจริงไว้..เหมือนปิดไฟให้มืดมิดหมดทั้งห้อง
ย่อมมีคนค้นหาไฟมาส่อง..เพื่อได้มองเพื่อผ่อนคลายสบายใจ
๖.หากสังคมมืดมัวไม่เปิดเผย..กระไรเลยจะไม่มีที่สงสัย
ย่อมมีคนแคะคุ้ยจากภายใน..มาตีแผ่ออกไปแบบเปิดโปง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๗ ตุลา ๕๓