วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ช้องแมว (ซองแมว)

๐ ดูดอกเป็นช่อชั้น........เดินชม
เขียวเหลืองกลีบมนกลม.....หย่อนห้อย
ตามต้นแซมหนามคม.....ไปทั่ว
ดอกช่อดูแช่มช้อย.....ช่อช้องซองแมว
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๔ กกรกฎา ๕๓

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อย่าให้หัวใจไร้รัก

๑ อย่าให้หัวใจไร้รัก.....อย่าพักหัวใจไว้ว่าง
อย่าทิ้งหัวใจให้ร้าง....อย่าปล่อยอย่าวางหัวใจ
๒ ปรุงแต่งหัวใจสวยสด....ทำให้หมดจดสดใส
รักษาดูแลหัวใจ....แล้วให้หัวใจทำงาน
๓ อย่าให้หัวใจหยุดรัก....รู้จักเอารักประสาน
ทำให้หัวใจเบิกบาน....มีภูมิต้านทานพอตัว
๔ รักคนทั้งใกล้ทั้งไกล....รักใครต่อใครให้ทั่ว
รักเพื่อนมนุษย์สุดขั้ว....อย่ากลัวรักเข้มเต็มใจ
๕ ถึงแม้ไม่มีที่รัก....คนรักไม่มีใครไหน
รักเราปล่อยให้เขาไป....แม้ไม่มีรักตอบมา
๖ หากแม้รักใครไม่ได้....ขอให้รักพรรณพฤกษา
รักสัตว์รักน้ำรักฟ้า....รักป่าภูเขาลำเนาไพร
๗ รักหาดรักทะเลทุกย่าน....รักบ้านรักเมืองเรื่องใหญ่
รักชาติรักชนสนใจ....ใส่ใจส่วนรวมท่วมท้น
๘ รักไปจนหมดหัวใจ...รักใครต่อใครไร้ผล
อย่าลืมรักตัวรักตน....เบื้องต้นแห่งรักคือเรา
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๒ กรกฎา ๕๓

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ปฏิมากรรมก้อนเมฆ

๐ พิศเพลินภาพท้องฟ้า...เจิดแจ่มจรัสจ้า
รูปปั้นเมฆา
๐ เทวารังสรรค์สร้าง...ลิง ชะนี หมี ช้าง
อีกม้า หมา หมู
๐ รูปหมู่มวลสัตว์น้ำ...ปลาตะเพียน แก้มช้ำ
เทพา เทโพ
๐ ชะโดว่ายคลึงเคล้า...กอบัวถอนรากเหง้า
ลอยฟ่องธารา
.......................................................
๐ ฉันชาวนาต่ำต้อย...จากเช้าถึงบ่ายคล้อย
คอยเฝ้าแหงนชม
๐ งามสมเมฆเสกปั้น...ปฏิมากรเหนือชั้น
ฟากฟ้าหอศิลป์
๐ ผืนดินระแหงแห้ง...ฝนไม่มานาแล้ง
จึงเฝ้าแหงนดู
๐ นั่งอยู่เถียงนาน้อย...วันวันใจละห้อย
จับจ้องมองนภา
๐ เห็นภาพมาไม่ซ้ำ...คืนวันเวียนเปลี่ยนย้ำ
เมฆเลื่อนสลับไป
๐ วันใดจักเคลื่อนคล้อย...แปรเป็นฝนตกย้อย
ละลายร่วงโปรยลง
๐ มัวหลงสลักสล้าง...ลืมท้องนาเวิ้งว้าง
ยึดเมฆไว้นาน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๙ กรกฎา ๕๓

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ความแล้งกับชาวนา

๐ "ร้อนรน "ฝนหาย ฝายแห้ง....ดินแดง แสงแดด แผดเผา
น้ำน้อย นานมา นาเศร้า.....ไฟจี้ หนี้เผา ชาวนา
๐ อยากทำ แต่ทำ ไม่ได้....อยากไถ ควายขยาด หวาดผวา
อยากหว่าน ไม่มี น้ำมา....อยากดำ หากล้า ไม่เจอ
๐ มันเป็น เรื่องเศร้า คราวนี้....ทั้งปี ตั้งท่า บ้าเห่อ
กำสรวล ครวญคร่ำ พร่ำเพ้อ....ตาเหม่อ หม่นหมอง มองควาย
๐ สงสาร พวกเขา ชาวนา...ไขว่คว้า คาดเดา เป้าหมาย
ทำนา ตามคำ ทำนาย...."ข้าวดี มีขาย ได้เงิน"
๐ แต่แล้ว ตื่นฝัน หวั่นไหว....บั้งไฟ แห่แหน เหาะเหิน
ขอฝน บนฟ้า มาเชิญ....นางแมว นางเมิน เดินดง
๐ สาธุ เทวา ถ้ามี....ปรานี โปรยบุญ หนุนส่ง
ประทาน น้ำฝน หล่นลง....ปลดปลง "ห่มหนาว "ชาวนา
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๘ กรกฎา ๕๓

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กุหลานมอญ

๐ ยินชื่อมอญสะท้อนไหวในหัวอก
โอ้เจ้านกหงส์ทองท่องเวหา
พลัดจากถิ่นบินหลงร่อนลงมา
ยังคงคาเจ้าพระยามหานที
๐ ชาติพันธุ์ดำรงอยู่ไม่รู้สิ้น
ส่วนแผ่นดินขอตรึงไว้ในศักดิ์ศรี
อยู่ที่ใดดวงใจพร้อมภักดี
จึงเป็นที่ชื่นชมแลเชิดชู
๐ ดังกุหลาบสูงส่งทรงคุณค่า
สวยสง่าสีสันนั้นสุดหรู
ทั้งดอกต้นคงทนพ้นฤดู
ปลูกไว้ดูชูใจในเพื่อนมอญ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๗ กรกฎา ๕๓

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ย่านางแดง

๐ ปลูกเจ้าเพียงเพื่อได้.....ดอกแดง
ชูช่อชันชนแสง.....แดดร้อน
ดังฝันค่าคุณแฝง....ฝังอยู่
ย่านางสมุนไพรซ้อน....ซ่อนซึ้งสรรพคุณ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๖ มิถุนา ๕๓

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หยุดอยู่แค่นี้

๐ โลกนี้คือ "มูนมังสังขยา " เราได้จาก"ปู่สังกะสาย่าสังกะสี"
มอบหมายมาเนิ่นนานหลายล้านปี โดยที่มีชีวิตอื่นร่วมครอบครอง
๐ พืชพรรณไม้ พวกสิงสาราสัตว์ ต่างยืนหยัดอยู่เหย้าเป็นเจ้าของ
ยังยืนยงโยงใยใฝ่ปรองดอง เข้าเกี่ยวข้องผูกพันแบบพึ่งพา
๐ มีอยู่บ้างบางทีที่เบียดเบียน แล้ววนเวียนวัฏจักรการรักษา
ดังเป็นเกณฑ์กำหนดกฎกติกา ธรรมชาติธรรมดาวิวัฒนาการ
๐ อยู่กันมาอยู่กันไปในแบบนี้ แม้จักมีห่วงโซ่แห่งอาหาร
ดำรงชีพด้วยกันและกันมาช้านาน ไม่ถึงกับล้างผลาญจาพังภินท์
๐ บัดเดียวนี้ผู้เก่งกว่าชักกำแหง เป็นผู้แย่งพื้นที่เกือบหมดสิ้น
เป็นผู้กินมากว่าจะถูกกิน พิพากษาตัดสินเข้าข้างตน
๐ พวกแร่ธาตุพืชพรรณบรรดาสัตว์ ถูกกำจัดออกไปไร้เหตุผล
ความละโมบเห็นแก่ตัวแห่งผู้คน พากันปล้นสมบัติโลกสมบัติกลาง
๐ มีสมองสองมือคืออาวุธ คิดไม่หยุดทำไม่หยุดสุดจะกร่าง
เอาชนะคะคานเสียทุกทาง คำว่า "สร้าง" แท้จริงคือ "ทำลาย"
๐ เมื่อโลกทรุดกลับสุดจักยับยั้ง เมื่อโลกพังพาพังสิ่งทั้งหลาย
เมื่อโลกทรุดทุกโซนโดนทำลาย เมื่อโลกพ่ายเห็นแต่แพ้ไปด้วยกัน
๐ หากถามว่า ณ วันนี้มีหวังไหม ที่ทำให้โลกฟื้นกลับคืนหัน
พลิกเหตุการณ์ย้อนคืนแลย้อนวัน คืนสีสันสดใสไร้มลทิน
๐ คำตอบคือ คืนสภาพคงทำยาก เนื่องมาจากความหมดจดได้หมดสิ้น
ความบริสุทธิ์โดนย่ำยีมีราคิน ยากจักจิน-ตนาการ ภาพลักษณ์เดิม
๐ แต่หากเราร่วมมืออย่างจริงจัง พอมีหวังมิให้บอบช้ำเพิ่ม
ขอคนเราหยุดล่วงล้ำทำเหิมเกริม หยุดพฤติกรรมแบบเดิมกันเสียที
๐ ขอให้หยุดระรานสิ่งแวดล้อม ให้ถนอมโลกเก่าเอาแค่นี้
ที่ทำลายไปแล้ว แล้วไปที ต่อแต่นี้ยื่นมือมาอุ้มชู
๐ แม้คืนโลกสภาพเดิมไม่ได้แล้ว ขอให้เรารักษาแนวที่เป็นอยู่
อย่าให้ย่อยอย่าให้ยับอย่าให้ยู่ คงได้อยู่เป็นเรือนเหย้าอีกยาวนาน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๖ มิถุนา๕๓