วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บัวรุ่ง บัวรื่น บัวรา บัวโรย

๑ อันดอกบัวบอกอะไรเราได้บ้าง..มีแตกต่างทางเทียบเปรียบเปรยได้
แต่ละคนแต่ละเพศแต่ละวัย..จักมองไปคนละมุมไม่ว่ากัน
๒ ถึงอย่างไรบัวยังบอกเป็นดอกไม้..ที่สดใสชวนชื่นตื่นตาฝัน
เป็นพืชน้ำบริสุทธิ์ผุดผ่องพรรณ..งามเหนือชั้นพันธุ์ใดในนที
๓ ในยามเช้ารีบบานรออรุณฉาย..พอตกบ่ายหุบกลีบรีบเข้าที่
ขืนบานสู้ต่อไปจักไม่ดี...แสงระวีบัวไม่กล้าท้าประจัน
๔ หลบเอาแรงแฝงร่างกลางคืนค่ำ..น้ำค้างฉ่ำชุ่มชื้นคืนสวรรค์
ตั้งตาคอยลอยคอล้อแสงจันทร์ ..แล้วเพ้อฝันหลับใหลในสายธาร
๕ เอาไว้รุ่งวันใหม่แสงไม่ร้อน..ค่อยตื่นนอนตอนแสงตาวันฉาน
ได้ไออุ่นก็กระเบงออกเบ่งบาน..จนแสงจ้านร้อนนักจักขอลา
๖ ครั้นรับแสงสดชื่นผ่านคืนวัน..จำเปลี่ยนผันไม่จีรังแปรสังขาร์
จากบัวรุ่ง บัวรื่น เป็นบัวรา..แล้วก็มาเป็นบัวโรยลงไปพลัน
๗ เรื่องแบบนี้บอกอะไรได้ไหมหนอ..จักคิดต่อออกไปอย่างไรนั้น
หรือคิดต่างอย่างไรใจต่างกัน..ถ้าคิดได้อย่างไรนั้นบอกกันที
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๐ ตุลา ๕๒

กล้า

.......จงกล้า
ที่จักทำเป็นขี้ขลาด
ในบางเรื่องที่คนทั่วไปยุให้กล้า
........จงกล้า
ที่จักป็นตัวของตัวเอง
แม้นานมาแล้วขลาดที่จักทำเช่นนั้น
.......จงกล้า
ที่จักนิ่งงัน
ทั้งที่ใจเต้นเร่าแลปากขยับที่จักวิวาทะแล้วก็ตาม
.......จงกล้า
ที่จักนั่งลง
แม้เท้าเรียกร้องให้ออกก้าวเดิน
........ควรกล้า
ในบางเรื่อง
ที่ไม่ทำให้ความกล้าของคนอื่นหมดความหมาย
แลไม่ทำให้ความขลาดแห่งตนเสียสมดุล
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๙ ตุลา ๕๒

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หม่นหมอง

กลางฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
กลับมีลมตะวันออกเฉียงใต้
พัดสวนขึ้นมารุนแรง
โหมกระหน่ำหนักหน่วง
ชาวบ้านชนบท...โจทย์ขาน
ว่าเป็นลมแห่งการร่ำลือ
สายลมสื่อสารให้รู้แล้วว่า..
ประติมากรรมศิลาโบราณ
....รู้สึกเศร้าแลหม่นหมอง
....เมื่อเห็นนกสองตัวกำลังวิวาทะ
โดยไม่รู้สาเหตุ
โดยลุแก่อารมณ์
....รู้สึกเศร้าแลหม่นหมอง
....เมื่อรู้ว่าสาวกรูปปั้นเล็กหลายตัว
ด่าทอเกรี้ยวกราดกันเนืองๆ
....รู้สึกเศร้าแลหม่นหมอง
....เมื่อเห็นไทรพฤกษา ที่อาศัยข้างประติมา
หยั่งราก แยงกิ่งก้านสาขา
ระรานกันแลกัน
....รู้สึกเศร้าแลหม่นหมอง
....เมื่อประจักษ์ชัดว่าสิ่งใกล้ตัว
ไม่ปรองดองกัน
ทั้งๆที่สืบเชื้อสายพงศ์เผ่าเดียวกัน
มาเนิ่นนานแต่อดีตโพ้น
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๗ ตุลา ๕๒

สลาย

การแตกสลาย....
แห่งมหาประติมากรรมยักษ์
มิใช่ถูกทุบทำลาย
โดยมือผู้ใด
....แต่เป็นด้วย
การระอุของเม็ดศิลาภายใน
นั่นเอง
การล่มสลาย.....
แห่งมหาอาณาจักร
มิใช่ถูกรุกรานจนพ่ายแพ้
จากอริศัตรู
.....แต่เป็นด้วย
ความแตกแยกแลขัดแย้ง
ของอณูดินแห่งมหาอาณาจักร
นั่นเอง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๗ ตุลา ๕๒

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คนเขลา

....................นกใหญ่บินสูง
ลงมาหากินตามพื้นดิน
....................นกเล็กบินต่ำ
ขึ้นไปหากินบนยอดไม้
....................คนเขลา
กินนก
ทั้งนกเล็กแลนกใหญ่

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๔ ตุลา ๕๒

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แม่กทลี

๐ เกิดกลล์จนแก่กล้า....กายี
กษีระกับกทลี......... ก่อเกื้อ
กราบกรานกตเวที... ทุกเมื่อ
กกกอผลใบเอื้อ....เลิศล้ำคุณากร
ศักดิ์เรือง วลี บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๓ ตุลา ๕๒

อาคม

.............ณ ที่ที่ฉันอยู่
.............ณ ที่ที่ฉันเป็น
ยังมีความห่วงใยจากเงามืด
แทรกผ่านอากาศออกมาสม่ำเสมอ
"ระวังนะ..ลมมันแรง"
ฉันตอบในใจ
"ไม่เป็นไร ตัวฉันไม่รับแรงลมอยู่แล้ว"
"ระวังนะ..คลื่นมันแรง"
"ไม่เป็นไร ตัวฉันไม่รับแรงคลื่นอยู่แล้ว"
"ระวังนะมันมืดมิดนะ"
"ไม่เป็นไร ตัวฉันพอจะมีแสงสว่างในตัวอยู่บ้าง"
........ยังมีคำและความห่วงใยตามมาอีกมากมาย
ขอบคุณความห่วงใยจากเงามืด
.......และฉันก็อดที่จะขอบคุณในคาถาอาคมของตัวเองไม่ได้เช่นกัน

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๓ ตุลา ๕๒