วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คอยฝนจนใจเหี่ยว

(ภาพจาก oknation.net)
๑. เห็นต้นหญ้า ยอดไม้ และใบข้าว ที่เหี่ยวเฉา พับห้อย คอยน้ำฝน
ไม่แตกต่าง อย่างใด กับใจคน ที่หมองหม่น หมดหวัง นั่งเหม่อลอย
๒. หลายเพลา ล่วงเลย ไม่เคยเห็น เพียงกระเซ็น พรมพร่าง บ้างนิดหน่อย
แล้วลับหาย ห่างไป ปล่อยให้คอย เครียดไม่น้อย ที่หน้านี้ ไม่มีน้ำ
๓. ต้นฤดู มีมาพอ ล่อต้นข้าว ให้งอกพราว เขียวพรู ดูชื่นฉ่ำ
จุดประกาย ความหวัง ยังจดจำ งดงามล้ำ พริ้มลม แลประทัง
๔. แต่แล้วก็ ทิ้งช่วง ไม่ห่วงทุ่ง ทิ้งป้าลุง คนนา มาสิ้นหวัง
ดินระแหง แห้งโหย โบยภวังค์ อ่อนกำลัง แรงใจ ไม่ชื่นกัน
๕. โอ้ชีวิต ฝากฝน บนฟากฟ้า วาสนา น้อยไป หรือไรนั่น
แต่ละปี จับเจ่า เฝ้ารอวัน ได้สุขสันต์ สดใส ในท้องนา
๖. ได้โปรดเถิด ฝนฟ้า มาแลเหลียว คนใจเหี่ยว ข้าวใบเฉา เฝ้าคอยหา
ขอสายฝน หวนเร่ เทลงมา ให้ชุ่มฉ่ำ ชุบชีวา นากับคน
๐ฯฯ
บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑๐ กรกฎา ๕๔
(เขียนบทกลอนนี้ไว้เมื่อวันที่ ๙ กรกฎษ ๕๔ พอตกกลางคืนวันนั้นฝกตกลงมาให้เลย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น