.........ฉันเฝ้าขับขานบทเพลง อย่างเดียวดาย
ภายในถ้ำอันมืดมิด
แม้ไม่มีผู้ใดได้สดับซึ่งน้ำเสียง
หรือได้ซาบซึ้งในเนื้อหา...แห่งบทเพลง
.........ฉันก็ยังปลื้ม แลขอปลื้มไปเช่นนี้ ...เนิ่นนาน
ฉันจักสดับบทเพลงอันเดียวดาย อย่างเดียวดาย
ฉันจักสดับบทเพลงของฉันในถ้ำมืดด้วยหูข้างซ้าย
ส่วนหูข้างขวาฉันจักคอยสดับเสียงของหัวใจ
พร้อมกับคอยเงี่ยฟังว่าจักมีเสียงใดเล็ดลอดเข้ามาภายในถ้ำบ้าง
.........ฉันหวังว่าบทเพลงที่ฉันขับขาน(อย่างเดียวดาย) ทุกวี่วัน
จักถูกซึมซับไว้ที่หินผาแวดล้อมผนังถ้ำ
แล้วคงถูกถ่ายทอดออกมาราวปาฏิหาริย์
ณ ช่วงหนึ่งแห่งกาลเวลา
.......แม้ว่าจักนานแสนนานสักปานใด
ฤา จักเนิ่นนานจนกว่าชีพฉันจักหาไม่แล้ว...ก็ตามที
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๓๐ พฤศจิกา ๕๒
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
นักพรต
นกน้อยจับกิ่งโพธิ์
จ้องมองอย่างสมเพช
เมื่อเห็นนักพรตกลุ่มหนึ่ง
กำลังแปลเจตนาของศาสดา
ผิดเพี้ยนไป
"ธรรมะ คืออิทธิฤทธิ์
ธรรมะ คือปาฏิหาริย์
ธรรมะ คือแก้วสารพัดนึก
ธรรมะ คือขุมทรัพย์
...............................ฯลฯ "
นกน้อยส่ายหัวอย่างเศร้าสร้อย และผิดหวัง
แล้วบินจากไป
โดยไม่ได้ทักท้วง
ด้วยประจักษ์แก่ใจว่า.....
นักพรตบางพวก เป็นพวกที่ใครทักท้วงไม่ได้
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ร้อยเอ็ด / ๒๙ พฤศจิกา ๕๒
จ้องมองอย่างสมเพช
เมื่อเห็นนักพรตกลุ่มหนึ่ง
กำลังแปลเจตนาของศาสดา
ผิดเพี้ยนไป
"ธรรมะ คืออิทธิฤทธิ์
ธรรมะ คือปาฏิหาริย์
ธรรมะ คือแก้วสารพัดนึก
ธรรมะ คือขุมทรัพย์
...............................ฯลฯ "
นกน้อยส่ายหัวอย่างเศร้าสร้อย และผิดหวัง
แล้วบินจากไป
โดยไม่ได้ทักท้วง
ด้วยประจักษ์แก่ใจว่า.....
นักพรตบางพวก เป็นพวกที่ใครทักท้วงไม่ได้
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ร้อยเอ็ด / ๒๙ พฤศจิกา ๕๒
ธรรมชาติ กับอธรรมชาติ
ต้นไม้แห่งความดี
มันหยั่งรากชอนไชลงในจิตใต้สำนึก
โดยธรรมชาติ โดยเมล็ดพันธุ์
และโดยต้นกล้า ของมันเอง
ตัวปลวกแห่งอธรรมต่างหาก
ที่มันถูกปล่อยลงไป เพื่อทำลายรากเหง้าแห่งต้นไม้นั้น
โดยเจตนา โดยความพยายามแห่งพลังที่ดำมืด
และโดยมือแห่งอสูร
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๙ พฤศจิกา ๕๒
มันหยั่งรากชอนไชลงในจิตใต้สำนึก
โดยธรรมชาติ โดยเมล็ดพันธุ์
และโดยต้นกล้า ของมันเอง
ตัวปลวกแห่งอธรรมต่างหาก
ที่มันถูกปล่อยลงไป เพื่อทำลายรากเหง้าแห่งต้นไม้นั้น
โดยเจตนา โดยความพยายามแห่งพลังที่ดำมืด
และโดยมือแห่งอสูร
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๙ พฤศจิกา ๕๒
วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
คืนบางคืนที่หนาว
สายลมหนาวในค่ำคืนนี้
สั่นสะท้านไปถึงจิตสำนึก
ทิ่มแทงอารมณ์ละมุนแต่บาดลึก
กาลเวลาคงเลอะเลือน
หรืออาจกลั่นแกล้ง ซ้ำเติม
ด้วยว่ารุ่งอรุณเดินทางอย่างเชื่องช้า
ไม่มาถึงสักที
การรอคอย..ทำให้ทุรนเสมอ
แม้มือแห่งเอื้ออาทรยังมาไม่ถึง
หรืออาจจะไม่มีมา
แต่....อ้อมแขนแห่งภูมิคุ้มกัน
ยังโอบรัดอยู่อย่างมั่นคง
ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ พฤศจิกา ๕๒
สั่นสะท้านไปถึงจิตสำนึก
ทิ่มแทงอารมณ์ละมุนแต่บาดลึก
กาลเวลาคงเลอะเลือน
หรืออาจกลั่นแกล้ง ซ้ำเติม
ด้วยว่ารุ่งอรุณเดินทางอย่างเชื่องช้า
ไม่มาถึงสักที
การรอคอย..ทำให้ทุรนเสมอ
แม้มือแห่งเอื้ออาทรยังมาไม่ถึง
หรืออาจจะไม่มีมา
แต่....อ้อมแขนแห่งภูมิคุ้มกัน
ยังโอบรัดอยู่อย่างมั่นคง
ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ พฤศจิกา ๕๒
วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ว่าย ว่าย ว่าย
๐ หากหวังจักว่ายน้ำ หนีภัย
จงอย่ากังวลใจ เรื่องน้ำ
ธาราขุ่นฤาใส เหม็นเน่า
จงแหวกจงว่ายจ้ำ อย่ารั้งรีรอ
๐ ทวนกระแสถูกซัดบ้าง บางที
ตามกระแสอาจจะมี บางครั้ง
สำคัญคือควรรี่ รุกคืบ
หากรุดไปไม่ยั้ง อย่างนี้มีหวัง
๐ พึงระวังเสียงจากผู้ (ไม่)หวังดี
ส่งเสียงแทรกนที ทักท้วง
อย่าหันขวางหันรี ลืมว่าย
อาจเป็นเสียงจาบจ้วง ประสงค์ร้ายแอบแฝง
๐ ฝั่งฝันรออยู่หน้า นั่นเสมอ
ใฝ่ฝันจักไปเจอ จนได้
พบแพร่งอย่าไผลเผลอ ผันเปลี่ยน
จงมุ่งจงมั่นไว้ ว่ายข้ามไปพลัน
๐ ขอนลอนอาจยั่วให้ เกาะพัก
บางทีหลุดเสียหลัก สุดรั้ง
อย่าหลงกลควรหัก ห้ามจิต
เสียท่าอาจพลาดพลั้ง เพลี่ยงพล้ำเพียงเผลอ
๐ ว่าย ว่าย ว่าย อย่างยั้ง กลางกระแส
ใจมั่นมิปรวนแปร เปลี่ยนหน้า
ใครหยันอย่าตอแย ตามยั่ว
ธารเชี่ยวหากใจกล้า ฝ่าพ้นถึงฝัน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๔ พฤศจิกา ๕๒
จงอย่ากังวลใจ เรื่องน้ำ
ธาราขุ่นฤาใส เหม็นเน่า
จงแหวกจงว่ายจ้ำ อย่ารั้งรีรอ
๐ ทวนกระแสถูกซัดบ้าง บางที
ตามกระแสอาจจะมี บางครั้ง
สำคัญคือควรรี่ รุกคืบ
หากรุดไปไม่ยั้ง อย่างนี้มีหวัง
๐ พึงระวังเสียงจากผู้ (ไม่)หวังดี
ส่งเสียงแทรกนที ทักท้วง
อย่าหันขวางหันรี ลืมว่าย
อาจเป็นเสียงจาบจ้วง ประสงค์ร้ายแอบแฝง
๐ ฝั่งฝันรออยู่หน้า นั่นเสมอ
ใฝ่ฝันจักไปเจอ จนได้
พบแพร่งอย่าไผลเผลอ ผันเปลี่ยน
จงมุ่งจงมั่นไว้ ว่ายข้ามไปพลัน
๐ ขอนลอนอาจยั่วให้ เกาะพัก
บางทีหลุดเสียหลัก สุดรั้ง
อย่าหลงกลควรหัก ห้ามจิต
เสียท่าอาจพลาดพลั้ง เพลี่ยงพล้ำเพียงเผลอ
๐ ว่าย ว่าย ว่าย อย่างยั้ง กลางกระแส
ใจมั่นมิปรวนแปร เปลี่ยนหน้า
ใครหยันอย่าตอแย ตามยั่ว
ธารเชี่ยวหากใจกล้า ฝ่าพ้นถึงฝัน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๔ พฤศจิกา ๕๒
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
จากคนปลูกข้าวถึงคนกินข้าว

คอยคอยคอยเฝ้ารอคอยอย่างลำเค็ญ ครั้นได้เห็นรวงข้าวค่อยเบาใจ
๒.ชีวิตนี้ทั้งชีวิตถูกติดห้อย ด้วยคำว่าคอยคอยมาแต่ไหน
สิ่งที่คอยได้สักทีก็ดีใจ แต่เมื่อใดไม่มีมาก็มืดมน
๓.ตอนเริ่มต้นฤดูกาลต้องหว่านไถ ตั้งจิตใจรอท่าคอยฟ้าฝน
หลังตกกล้านาดอนออกร้อนรน ถ้าหากฝนทิ้งช่วงทักท้วงใคร
๔.อกชาวนาผู้บุญน้อยรอคอยต่อ มีน้อยครั้งที่ร้องขอทนรอไหว
ดวงชะตาเป็นเดิมพันกันเรื่อยไป ส่วนหัวใจเอาหินเสริมเติมใจตน
๕.ยิ่งตอนข้าวตั้งท้องต้องคิดหนัก เป็นห่วงนักทั้งเรื่องโรคเรื่องน้ำฝน
นาอาจแล้งน้ำอาจหลั่งเป็นกังวล กว่าผ่านพ้นทุกค่ำคืนหืดขึ้นคอ
๖.ข้าวออกรวงยังหวาดไหวใจละห้อย ต้องรอคอยฟังข่าวราคาต่อ
เจ้าหนี้เตือนเขียนใบสั่งเงื้อปังตอ แถมดอกเบี้ยเบ่งบานรอที่หน้าลาน
๗.กี่แล้งทน กี่ฝนเศร้า กี่หนาวท้อ ชาวนาห่อใจเหี่ยวเปรี้ยวอมหวาน
สู้กล้ำกลืนความช้ำระกำมาน โปรดสงสารสมเพชและเมตตา
๘.อย่างน้อยน้อยคนกินข้าวควรได้คิด เพียงให้เกียรติกันสักนิดก็ไม่ว่า
อย่าดูถูกเหยียดหยามคนทำนา กรุณาอุ้มชูดูแลกัน
๙.กว่าได้ข้าวแต่ละจานผ่านวิบาก ต้องยุ่งยากเหนื่อยล้ามาหลายขั้น
เอาแรงควายแรงคนปนเปกัน ขอเพียงท่านตั้งใจกินหมดเกลี้ยงจาน
๑๐.อย่ากินทิ้งกินขว้างอย่างผีบ้า ให้รู้ค่าข้าวเปลือกและข้าวสาร
มีสำนึกต่ออาชีพไทยโบราณ สอนลูกหลานให้รู้คุณของแผ่นดิน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๓ พฤศจิกา ๕๒
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
อย่าลืมรากเหง้า
.jpg)
๑. มองดูผืนป่านี้ เห็นมากมีมวลหมู่ไม้
ชูยอด ดอก ผล ใบ ดูไสวชื่นใจจินต์
๒. สอดแซมแกมกิ่งก้าน ดังผลงานวิจิตรศิลป์
สีสันสร้างแผ่นดิน เป็นภูมิถิ่นที่วิไล
๓. ต้นไม้แต่ละต้น ต่างทานทนแดดลมไล้
แต่ละต้นต่างกันไป ในเผ่าพันธุ์ที่เป็นมา
๔. พืชพรรณบางสายพันธุ์ เกาะกลุ่มกันกลางผืนป่า
บางพันธุ์แทรกวนา โดยแกล้วกล้าไม่กลับกลาย
๕. ยอดไม้กลมกลืนกัน ร่วมสร้างสรรค์ทุกเชื้อสาย
ดังพี่น้องป้องปลาย อยู่เรียงรายระดะไป
๖. ต่างต้นต่างรากเหง้า ต่างพงษ์เผ่าต่างพิสัย
ที่มาต่างที่ไป แต่อยู่ในผืนดินเดียว
๗. จงสำนึกความเป็นหนึ่ง สัมพันธ์ซึ้งสุดแน่นเหนียว
อยู่กันอย่างกลมเกลียว เป็นเนื้อเดียวโดยปรองดอง
๘. เป็นมากันเช่นไร ให้เป็นไปตามครรลอง
รักกันฉันท์พี่น้อง เท่ากับทองแผ่นเดียวกัน
๙. อย่าลืมเรื่องรากเหง้า ผสานเข้าดังใฝ่ฝัน
สามัคคีชั่วนิรันดร์ ร่วมสร้างสรรค์ป่ามั่นคง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๒๐ พฤศจิกา ๕๒
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)