วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

เหลืองชัชวาล

เหลืองชัชวาล
๐ เหลืองเรืองรองเลื่อมละม้าย..ปีกภมร
เหลืองเรื่อกลีบเกสร ........สดสะอ้าน
เหลืองอร่ามดังอาภรณ์.....แพรโพก
เหลืองชัชวาลสว่างจ้าน...แจ่มแจ้งเจนจินต์
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑ กุมภา ๕๓

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

จันทน์กะพ้อ

จันทน์กะพ้อ

๐ หอมกลิ่นจันทน์กะพ้อ.....เพียงจันทน์

หอมไล่กระเจิงจัณฑ์......จาบจ้วง

กลีบขาวราวนวลจันทร์....สวยแจ่ม

อวลกลิ่นไปกว่ากว้าง.....ทั่วคุ้งโจษจัน

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๑ มกรา ๕๓


ความสุขเล็กๆยังพอมี

๐ เรื่องไกลตัวก็ปวดหัวอยู่ไม่น้อย
เหตุเศร้าสร้อยฟั่นเฟือนสะเทือนขวัญ
ภัยพิบัติขุกเข็ญไม่เว้นวัน
ความมั่นคงของเผ่าพันธุ์แทบพังภินท์
๐ โลกก้าวหน้าแต่มนุษย์สุดป่าเถื่อน
มองดูเหมือนยุคถ้ำหรือยุคหิน
เผชิญหน้าฆ่าฟันบั่นชีวิน
แย่งกันอยู่แย่งกันกินสิ้นปราณี
๐ ในสังคมภูมิภาคก็มากเรื่อง
มีขุ่นเคืองบาดหมางข้างพื้นที่
เรื่องชายแดนปัญหาก็มากมี
ต้องราวีกระทบกระทั่งทั้งแนวรั้ว
๐ ในประเทศก็เกิดลิ่มที่แตกร้าว
มีเรื่องราวขัดแย้งแบ่งแยกขั้ว
คงสักวันบรรยากาศอาจขุ่นมัว
จนหวั่นกลัวจะถึงขั้นอันตราย
๐ ในครอบครัววุ่นวายมากมายนัก
อุปสรรคปัญหาแก้ไม่หาย
หารายได้ไม่พอต่อรายจ่าย
สุขภาพกายสุขภาพใจให้เสื่อมเกิน
๐ กำลังคิดร้อนใจอยู่ในบ้าน
ครั้นมองผ่านนอกหน้าต่างที่ห่างเหิน
เห็นนกน้อยเยี่ยมหน้ามาหยอกเอิน
คล้ายเชื้อเชิญให้หัวใจไปด้วยกัน
๐ ทั้งยังส่งเสียงร้องระริกรื่น
โอ้ใจเอยเลยได้ตื่นจากภาพฝัน
แปรความทุกข์เป็นสุขใจไปโดยพลัน
โอ้สวรรค์เล็กๆริมชายคา

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๓๐ มกรา ๕๓


วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

สิ่งมีค่าที่เหลืออยู่


๑..........ถึงเพื่อนผู้สูญเสีย
คงอ่อนเพลียเหนื่อยล้ามหาโศก
มันเป็นเหตุอภิวิปโยค
เพื่อนร่วมโลกจึงอกสั่นกว่าฝันร้าย
๒. มันเกิดด้วยกฎอันใดก็แล้วแต่
ที่แน่แน่มันอุบัติไม่นัดหมาย
มันทวงคืนเอาไปอย่างมากมาย
อันตรายเกินใจรับได้กับมัน
๓. เพื่อนมนุษย์กลุ่มใหญ่หลับไม่ตื่น
ข้ามวันคืนพ้นทุกข์ไปสุขสันต์
ได้พักผ่อนจากนี้ตราบนิรันดร์
ที่ตื่นมาต้องตามขวัญอันกระจาย
๔. อาจเป็นกรรมฤาเป็นกฎบทพิสูจน์
แรงดึงดูดแรงกระทบกระแทกหาย
แรงกระทำแรงกระท้อนถอนทำลาย
โดยเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ผู้ใด
๕. เพียงเพื่อนเรายืนขวางบนทางผ่าน
จึงไม่อาจต้านทานต่อแรงไหว
จำต้องพบพิษพินาศปลาตไป
ชั่วอึดใจมันกลืนกินสิ้นแรงทาน
๖. .............เพื่อนมนุษย์...ผู้ยังอยู่
แสนอดสูสิ้นสูญสุดสงสาร
ที่เหลืออยู่ "ลมหายใจแลดวงมาน"
คือศฤงคารอันมีค่ากว่าสิ่งใด
๗. จงหยัดอยู่อย่างท้าทาย "หายใจ"ต่อ
เราจักขอโบกธงส่งแรงให้
เป็นแรงรัก แรงศรัทธา เป็นแรงใจ
จงหายใจให้ใจเต้นเป็นต้นทุน
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด ๒๖ มกรา ๕๓
(แผ่นดินไหว ที่เฮติ ความแรง ๗ ริกเตอร์ คาดว่ามีผ้เสียชีวิต ราว ๒ แสนคน)


วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ผู้ก่อ ผู้แก้

๑. ปัญหามนุษย์สร้าง.......สะสม
แสนนานที่ทับถม..........ท่วมท้น
นับวันยิ่งหมักหมม.........เหม็นเน่า
หากไม่คิดไม่ค้น...........ทางแก้ จักสาย
๒. ทุกปัญหามีส่วนสร้าง..ทุกคน
อย่าคิดเอาว่าตน..........ไม่ใช่
มัวเกี่ยงกันสับสน..........เสียท่า
มันจะโถมทับให้..........ไม่ได้โงหัว
๓. ไม่มากก็ย่อมน้อย.....เคยแน่
มีส่วนทำปรวนแปร.......เอาไว้
ดังนั้นอย่าเชือนแช......รีบช่วย
คนละมือละไม้ ...........ปกป้องโลกเรา
๔. ทุกเรื่องมนุษย์นั้น...เชี่ยวชาญ
เสาะหาวิธีการ............กอบกู้
ศัตรูใหญ่เกินประมาณ..ยังพ่าย
เพียงแต่เราร่วมสู้......ต่อต้านโดยเร็ว
๕. ถึงมนุษย์จะเก่งกล้า..ปานใด
หากมัวทำเย็นใจ......ไม่แก้
ขืนปล่อยเนิ่นนานไป..จักยาก
รีบรุกจักไม่แพ้.........ผ่านพ้นพลิกผัน
๖. "เรารู้คุณทำได้...ไม่ยาก"
"หากแต่ปล่อยนานมาก...ยากไซร้"
เสียงเตือนดังมาจาก..นอกโลก
จงจำคำเตือนไว้....ว่าแล้ว...ลงมือ

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๔ มกรา ๕๓

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

แกร่ง

......หินผา ที่กร้านแกร่ง
ผ่านร้อนผ่านเย็นมาทุกระดับองศา
ผ่านคลื่นผ่านลมมาทุกความรุนแรง
ผ่านกาลเวลามานานแสน
ผ่านปรากฏการณ์มานับไม่ถ้วน
ผ่านการเปลี่ยนแปลงจนชินชา
...........ณ วันนี้
คำว่าความหวาดหวั่นไม่มีในความรู้สึก
มีแต่เพียง...เสียงท้าทาย
ว่า "..ยังมีอีกไหม...เข้ามาเลย..."
อดทนและทนทานมามาก ย่อมทนต่อไปอีกได้
หากแม้นทนไม่ไหว
ก็พร้อมที่จะสลายลงเป็นเม็ดทราย
หรือแม้แต่จักจมหายไปใต้บาดาลเลยก็ยังยินดี

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒๐ มกรา ๕๓

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

ชื่อเสียง

ฉันอยากมีชื่อเสียง
ด้วยว่า...คนมีชื่อเสียง
แม้เพียงไอ หรือจาม
ก็มยังมีคนคอยฟัง
ฉันอยากมีชื่อเสียง
เพื่อว่า...จักได้มีคนสนใจบ้าง
สนใจในสิ่งที่ฉันคิด
สนใจในสิ่งที่ฉันพูด
หรือสนใจในสิ่งที่ฉันเขียน
ฉันอยากมีชื่อเสียง
เพื่อว่า....จักได้มีคนสนใจบ้าง
สนใจที่จักนำสิ่งที่ฉันคิด พูด หรือเขียน
ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชน
ฉันอยากมีชื่อเสียง
เพื่อว่า....
แนวความคิดในความรักต่อโลก
ต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์
และสิ่งพิสุทธิ์ ในใจของฉัน
......จักได้รับความสนใจบ้าง
เมื่อความมีชื่อเสียง
ได้ตอบสนองต่อปรารถนาแห่งฉันแล้ว
ฉันก็พร้อมที่จะสลัดและสละความมีชื่อเสียงไป
ฉันยินยอมที่จะเดินจากไปจากชื่อเสียง
......หรือจะให้ฉันเดินจากโลกนี้ไป...ฉันก็ยอม

ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๑๒ มกรา ๕๓