วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไม่เปิดเผย เลยเปิดโปง

(ภาพใบบังบัว)
๑.คนทุกคนในสังคมสมควรรู้..ควรได้ดูของจริงทุกสิ่งสรรค์
ที่อุบัติที่เป็นไปในทุกวัน..ได้ตามทันได้เรียนรู้คู่กันไป
๒.ในระบบของสังคมควรเปิดสู้..ไม่ปิดหูปิดตาให้บอดใบ้
ควรเปิดเผยเรื่องจริงทุกสิ่งไซร้..ไม่ว่าใครทำอะไรที่ไหนกัน
๓.ไม่ว่าร้ายไม่ว่าดีเกิดที่ใด..ไม่เข้าใครออกใครไม่เหหัน
ถ้ามันเป็นความจริงทุกสิ่งนั้น..ไม่ปิดกั้นการรับรู้ของผู้คน
๔.ถ้าเช่นนี้ก็ไม่มีที่ระแวง..ความขัดแย้งลดไปไม่สับสน
เมื่อฟ้าใสใครต่อใครได้ยินยล..ทะลุพ้นมิติใหม่ได้มุมมอง
๕.ถ้าเมื่อใดปิดบังความจริงไว้..เหมือนปิดไฟให้มืดมิดหมดทั้งห้อง
ย่อมมีคนค้นหาไฟมาส่อง..เพื่อได้มองเพื่อผ่อนคลายสบายใจ
๖.หากสังคมมืดมัวไม่เปิดเผย..กระไรเลยจะไม่มีที่สงสัย
ย่อมมีคนแคะคุ้ยจากภายใน..มาตีแผ่ออกไปแบบเปิดโปง
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๗ ตุลา ๕๓

ใดหนอที่หล่อเลี้ยง

๑.ถามข่าว ชาวเมืองใหญ่ เป็นอย่างไร กันบ้างหนอ
ชีวิต มีเพียงพอ หรือไม่พอ กันเพียงใด
๒.ข้าวสาร ที่ส่งมา กุ้งปูปลา เนื้อนมไข่
หมูเห็ด และเป็ดไก่ พอกินใช้ หรือไม่นั่น
๓.พืชผัก ผลไม้ สดจากไร่ ส่งไม่อั้น
จากสวน ส่งเร็วพลัน กลัวไม่ทัน รับประทาน
๔.กะปิ เกลือเม็ดขาว อีกกับข้าว ทั้งคาวหวาน
น้ำปลา ทั้งน้ำตาล ขนส่งผ่าน กันหลายต่อ
๕.พัสตรา พวกผ้าแพร ฝ้ายไหมแท้ บรรจงทอ
ส่งมา ให้ห่มห่อ กรีดกรายป้อ ประชันกัน
๖.กินอิ่ม และนอนอุ่น ขอพวกคุณ โปรดมองหัน
ไปดูผู้ฝ่าฟัน สู้บากบั่น สร้างสรรค์มา
๗.เขาเหนื่อย อยู่กลางทุ่ง อีกเขายุ่ง อยู่กลางป่า
เขายาก อยู่กลางนา ทั้งเขาล้า กลางทะเล
๘.มีเงิน อย่าเพลินใช้ แบ่งปันไป ไม่หันเห
ช่วยเขา คนซวนเซ ที่ทุ่มเท เพื่อพวกคุณ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๖ ตุลา ๕๓

เสียงบ่นจากต้นไม้


๑.ในตอนนั้นพวกเรานี้แสนดีใจ
ที่เราได้เดินทางอย่างสง่า
เข้าบ้านใหม่สดใสวิไลตา
คนคอยท่าพวกเราเข้าประจำ
๒.เราทุกต้นเตรียมพร้อมทำหน้าที่
ที่พึงมีให้ประเสริฐและเลิศล้ำ
ทั้งความสวยความงามความเป็นธรรม
ทั้งจะนำความสมดุลความสุนทรี
๓.เรากำลังพัดวีสิ่งดีให้
กำลังไล่ความชั่วร้ายให้หลีกหนี
กำลังเรียกความมั่นคงสามัคคี
กำลังมีพลังเสริมเพิ่มศรัทธา
๔.แล้ว..มาถอนออกไปทำไมนี่
หรือว่ามีใครสะกิดใครอิจฉา
หรือว่ามีดวงดาวสั่งเข้ามา
รู้ไหมว่า..พวกเราเศร้าเพียงใด
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๕ ตุลา ๕๓

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หนูไม่รู้

๐ ถ้าไม่บอกให้รู้ หนูไม่รู้
ถ้าไม่ชี้ให้ดู หนูไม่เห็น
หนูจึงเป็นอย่างที่จำต้องเป็น
หนูรู้เห็นเพียงเท่าเขาให้ดู
๐ เรื่องของหนูมีคนรู้อยู่สองคน
ว่าตั้งต้นอย่างไร ใครไม่รู้
ปิดตาไว้คนทั่วไปไม่ได้ดู
ปิดใจไว้ไม่อยู่รู้แก่ใจ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๔ ตุลา ๕๓


สั่งฟ้าลาฝน

๐ สับสนฝนสั่งฟ้า..ลงริน
ฤาว่าฝนลาดิน..สู่ฟ้า
แสงเสียงที่ยลยิน..เลื่อนลั่น
เป็นสัญญาณลมฟ้า..เปลี่ยนหน้าอีกหน
๐ ครืนครืนเสียงสั่งสิ้น..สะเทือนใจ
ฝนมาฝนก็ไป..เวียนซ้ำ
ดินหวังสิ่งใดไหน..อีกนั่น
ฝนที่ฝังฝากน้ำ..ดินได้ดำรง
๐ คนยังฝากฝันไว้..กับฝน
ฝนท่วมจิตใจคน..คลั่งได้
ปีใดไม่มีฝน..คนด่า
ปีที่ฝนดีไซร้..ต่างปลื้มปรีดิ์เปรม
๐ อย่างไรคนเรานี้..ยังรอ
ยังยืนยื่นคำขอ..ฝนฟ้า
ยังหวังจักถักทอ..ฝันต่อ
ยังรอถึงเหนื่อยล้า..ร่ำร้องเรียกฝน
๐ ระหว่างรอขอให้..สัญญา
จักรักดินรักษา..แหล่งน้ำ
รักทะเล ภูผา..รักป่า
รอท่าฝนกลับย้ำ..เพื่อได้สมดุลย์
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๔ ตุลา ๕๓

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แมลงปอ

๑.ตอนฉันยังเขลาเยาว์วัย วิ่งไล่แมลงปอตามป่า
วิ่งเล่นตามไร่ตามนา เริงร่าระรานแมลง
๒.เจ้าปอปีกบางยุ่มย่าม ยิ่งยามแดดยอทอแสง
บินว่อนผาดโผนพลิกแพลง อวดตัวสีแดงสีดำ
๓.สีเหลืองสีเทาน้ำเงิน เพลิดเพลินพลิกหงายพลิกคว่ำ
ร่อนมาร่อนไปร่ายรำ สูงต่ำขึ้นลงเรื่อยเรียง
๔.ยามนั่งตกปลาริมฝั่ง ปอยังกรีดปีกสั่นเสียง
โฉบเฉี่ยวลดเลี้ยวเลียบเคียง บินเฉียงลงฉับจับคัน
๕.คันเบ็ดไม้ไผ่ไหวไหว กระตุกไวไวแล้วนั่น
เจ้าปอยึดไว้ไม่หวั่น จับมั่นยึดแน่นไม่วาง
๖.เมื่อปลาลากสายปลายคัน แล้วพลันลากเหยื่อออกห่าง
เจ้าปอบินวับวนคว้าง ระหว่าฉันง่วนงัดปลา
..............
๗.ฉันกลับถิ่นเก่าอีกครั้ง ไปนั่งตกเบ็ดริมท่า
ไม่มีแมลงปอป้อมา ผ่านหน้าผ่านตาสักตัว
๘.คันเบ็ดก็ไม่ไหวติง สนิทนิ่งเนิ่นนานน่าหวัว
ปลาหายไม่มีแม้ตัว แมลงปอก็กลัวกระไร
๙.คงมีเคมีสังเคราะห์ บ่มเพาะหมักหมมโถมใส่
นิเวศนิวาสเปลี่ยนไป ขับไล่ทั้งปลาทั้งปอ
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๒ ตุลา ๕๓

ช่องห่างระหว่างคน

๐ สองภาพวางทับซ้อน ไม่สวย
ภาพหนึ่งเป็นคนรวย เหลือล้น
อีกภาพคนระรวย ไส้กิ่ว
ระยะห่างสองภาพพ้น กว่าเอื้อมมือถึง
๐ มองไกลนึกว่าใกล้ ชิดกัน
เห็นภาพอยู่ทุกวัน ค่ำเช้า
ความจริงมันผกผัน ผิดแผก
รวยสุข-จนจำเศร้า ห่างชั้นเกินกัน
๐ คนรวยซื้อเพชรให้ แมวหมา
คนจนเขี่ยขยะหา ของใช้
นี่อะไรกันนักหนา โลกมนุษย์
ช่วยขยับสองภาพให้ เข้าใกล้กันที
ศักดิ์เรือง วลี/ บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด /๑ ตุลา ๕๓