วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ไฟบรรลัยกัลป์

๑.เคยได้ฟังเรื่องไฟบรรลัยกัลป์...เคยนึกขันปู่ย่าว่าเหลวไหล
ท่านพูกเพ้อคุยเฟื่องกันเรื่องไร...ย่อมสงสัยด้วยวัยไร้เดียงสา
๒. ครั้นเติบใหญ่พอเข้าใจในความหมาย...พุทธทำนายเล่าขานมานานช้า
ว่าสามไฟรุมเร้าเผาโลกา...ให้โรยราร้อนรนสุดทนทาน
๓. ไฟราคะ โทสะ โมหะ ร่วม...สามไฟรวมรุมเร้าไหม้เผาผลาญ
เป็นไฟกรด น้ำกรด ลมกกรด ราน...สุมเมืองบ้าน ผู้คน จนวอดวาย
๔. เมื่อก่อนนั้นเคยงงสงสัยหนัก...เริ่มประจักษ์เห็นเค้าจะเข้าข่าย
ไฟเผาคน จนครัวเรือนถูกทำลาย...ลุกลามหมายสู่ชุมชนและบ้านเมือง
๕. ลามประเทศ ลามทวีป ลามหมดโลก...ความทุกข์โศกมากลบลบความเฟื่อง
ความตกต่ำบดบังความรุ่งเรือง...หายนะอย่างต่อเนื่อง ตลอดมา
๖. ความวิบัติปั่นป่วนมวลอาเพศ...มีต้นเหตุสามไฟในพื้นหล้า
เริ่มจากคนไม่กี่คนบนโลกา...แล้วต่อมาติดเชื้อไฟไปมากมาย
๗. หากไม่ดับโลกไหม้บรรลัยแน่...หากไม่แก้ดับไฟให้เชื้อหาย
ไฟลุกโชนเผาทุกคนจนละลาย...คือความหมายแห่งไฟบรรลัยกัลป์
..........................
๘. ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยฉันที...ไฟโลกีย์เผาไหม้ในตัวฉัน
คงโดนพิษของไฟบรรลัยกัลป์...จะดับมันอย่างไรใครบอกที
(ป.ล.ขอเป็นวิธีง่ายๆ ด้วยภาษาง่ายๆ เถิดนะ..หลวงพี่)
ศักดิ์เรือง วลี /บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๕ กันยา ๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น