๑ เมื่อฟากฟ้าเปิดเวทีคลี่ม่านหมอก
เบื้องตะวันออกโคมใหญ่เริ่มให้แสง
เวทีบัวอวลกลิ่นหอมพร้อมแสดง
ฝูงแมลง ภู่ ผึ้ง หึ่งเพลงคลอ
๒ เสียงไก่แจ้ขันก้องร้องไพเราะ
เสียงเสนาะเถาวัลย์โยกโบกปลายพ้อ
เล็บมือนาง เสาวคนธ์เคียงพนอ
บัวชูคอ โยกไปมาช่างน่าดู
๓ นกกระเต็น นกเอี้ยง กระจอกกระจิบ
เสียงกระซิบเล่นเพลงบรรเลงคู่
สลับเสียงนกเขาเจ้าขันคู
จู้ฮุกกรู กรุ๊กกรู คูเสียงรัว
๔ เสียงลมชักสายซอในกอไผ่
แล้วเรียงไล่ตัวโน๊ตตามแนวรั้ว
กระถิน แค ขาม มะรุม รื่นระรัว
มะกรูดมะนาว ก็โยกตัวตามทำนอง
๕ แล้วมีเสียงทางมะพร้าวกรูกราวรับ
ได้สดับเสียงประสานผ่านโสตสอง
หัวใจบาน เบิกรับขับร้อยกรอง
เป็นกวีวรรคทองในจินตนา
๖ ลมโชยกลิ่นสายหยุดฉุดความคิด
ดอกสลิด พุดน้ำบุศย์ อินถะหวา
มะลุลี มะลิวัลย์ กรรณิการ์
ซ่านนาสา แซมเสียงเพลง บรรเลงเรียง
๗ เป็นบทเพลงดีดีที่หลังบ้าน
หากเกียจคร้านตื่นสายเสียดายเสียง
ได้เพลงทิพย์ปลอบโยนโอนสำเนียง
มาหล่อเลี้ยงโลมฤดีทุกวี่วัน
ศักดิ์เรือง วลี / บ้านแมกไม้ ร้อยเอ็ด / ๔ พฤศจิกา ๕๒
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น