วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นัก(เล่น)การเมือง

๑. ยกมือไหว้รอบทิศขอสิทธิ์เสียง
ส่งสำเนียงอ่อนน้อมค้อมหัวให้
หวังฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจ
เพื่อรับใช้แทนหูตาประชาชน
๒. ขึ้นปราศรัยหาเสียงเยี่ยงนักปราชญ์
ยกตัวอย่างอ้างอำนาขอันฉ้อฉล
เป็ยสิ่งเลวสุดบัดสีมีเล่ห์กล
ขออาสาเข้าไปชนในสภา
๓. ชี้ประวัติการศึกษามาตุชาติ
ล้วนสะอาดสูงส่งดังหงสา
อีกทั้งหว่านมธุรสพจนา
ให้เห็นว่าข้าฯนี้หรือคือคนดี
๔. จนชาวบ้านหลงคารมชื่นชมทั่ว
ยอมส่งตัวเข้าสภาทำหน้าที่
เป็น ส.ส.พอจะคล่อง สองสามปี
ก็เริ่มมีข่าวคาวออกฉาวโชย
๕. บ้างเป็นข่าวทำชั่วมั่วทางโลกย์
บ้างข่าวงกรับทรัพย์ดับความโหย
บ้างมีข่าวเบี้ยวประชุม กลุ้มอิดโรย
บ้างก็โวยเกรี้ยวกราดราษฎร
๖. หวังจะเห็นมีบทบาทก็พลาดท่า
หวังจะได้พึ่งพากลับมาหลอน
หวังจะได้กู้ชื่อชาวนาคร
ก็ได้เพียงอุทาหรณ์สอนใจจำ
๗. พอมีข่าวยุบสภาทำหน้าเศร้า
ดูปวดร้าวโวยวายให้น่าขำ
เที่ยวป่าวร้องต่อว่า "บ้าระยำ"
"โดนเหยียบย่ำเสรีอธิปไตย"
๘. ใกล้เลือกตั้งครั้งใหม่เวียนไหว้กราบ
ศิโรราบฝากฝังว่ายังไหว
ขออาสาแม่พ่ออีกต่อไป
จะตั้งใจทำงานด้านการเมือง
๙. ยังไม่ทันยื่นสมัครก็ชักวุ่น
วิ่งหัวหมุนหาพรรคใหม่จนไข้เหลือง
คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายคงสิ้นเปลือง
จึงหาเรื่องจากพรรคเก่าเข้าพรรครวย
๑๐. เพียงแดดเดียวยังไม่สิ้นกลิ่นคาวเนื้อ
เดเยวเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนตราท่าไม่สวย
อุดมการณ์อยู่จุดไหนไม่เป็นมวย
แล้วจะหวังใครช่วยลงคะแนน

ศักดิ์เรือง วลี /๒๘ มิถุนา ๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น